โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ไหนดีปี 2024 รวม 6 สถาบันเรทติ้งเด่นในกรุงเทพฯ

0
2

เมื่อเดือนที่แล้ว กูรู้สึกว่าเรื่องพูดภาษาอังกฤษมันค้างคาใจมานาน ฝรั่งมาถามทางทีไรเป็นขี้เมาเละทุกที เลยตัดสินใจหาที่เรียนสักที่แบบจริงจัง เริ่มจากเดินหาข้อมูลในเน็ตก่อนก็เซ็งครับ เจอโฆษณาเกลื่อนๆ บอกว่าเจ๋งครบทุกด้าน แต่กูเชื่อมือคนที่เรียนมากกว่า เลยลุยอ่านรีวิวจากเพจต่างๆ ในเฟสบุ๊คกับกลุ่มพ่อแม่

วันรุ่งขึ้นก็โทรไปถามสามที่ที่คนแนะนำบ่อยๆ ในกรุงเทพฯ

  • ที่เรียน A: สอบถามเรื่องอาจารย์ เขาบอกว่าเป็นฟิลิปปินส์หมด อัดคอร์สเป็นแพ็คเกจ 50 ชม. ฟังดูถูกแต่กูยังลังเล เพราะเพื่อนเคยบอกว่าสำเนียงมันเพี้ยนๆ
  • ที่เรียน B: บอกราคาสูงลิ่ว แต่แบบคอร์สส่วนตัว แถมอ้างว่าอาจารย์อเมริกันล้วน เวลาฟรีคอร์สแรกจบก็รู้สึกว่ามันเวิร์คช้าไป ซื้อ 10 ชม. ยังทู้กๆ อยู่
  • ที่เรียน C: สนใจเพราะเห็นเด็กวัยทำงานรีวิวเพียบ เจ้าหน้าที่ตอบเร็วมาก บอกว่ายืดหยุ่นได้ แยกเลเวลชัด ทั้งเรื่องฟัง พูด อ่าน โดยเฉพาะเรื่องพูดเน้นมาก ให้เรียนตัวต่อตัวหรือกลุ่มเล็กได้ เลยลองไปทดลองระดับ

พอไปถึงก็รู้สึกว่าตรงจริต ห้องเรียนเป็นสัดส่วน ไม่ได้อัดนักเรียนเป็นสิบๆ แถมตำราเค้าออกแบบเอง เรียนไม่น่าเบื่อ เห็นอาจารย์ต่างชาติคุยกับนักเรียนไทยด้วยภาษาอังกฤษตลอด แม่งไม่ยอมให้พูดไทยเลยแม้แต่คำเดียว! หลังทดลองจบ มีแจกรายงานจุดอ่อนให้ด้วยว่าต้องปรับตรงไหนบ้าง

ตัดสินใจสมัครคอร์สสนทนา 3 เดือน โดยเรียนสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พอเริ่มจริงวันแรก เหงื่อแตกครับ! อาจารย์ให้เล่าเรื่องงานตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งๆ ที่คำศัพท์專業นึกไม่ออกหลายคำ เจอคำตายเลยตอนพูดว่า “procurement” นึกไม่ออกจนแปะคำไทยไปว่า “การจัดซื้อ” โดนแก้บนที่โต๊ะเรียนเลย! แต่อาจารย์ไม่ด่าแต่บอกให้พูดแบบง่ายๆ แทนว่า “I buy things for my company” ได้

ผ่านไปอาทิตย์แรก เจอปัญหาที่คาดไม่ถึง คือแบบฝึกหัดมันเยอะเกิน หลังเลิกงานต้องมานั่งทวนอีกชั่วโมงนึง แถมต้องอัดเสียงส่งอาจารย์ทุกวัน ตอนแรกจะขี้เกียจแล้ว แต่พอนึกถึงเงินที่จุมไปก็บีบตัวเองทำ พออาจารย์ส่งเสียงกลับมาตอบพร้อมแก้จุดผิดให้ รู้สึกได้เลยว่าคล่องขึ้นนิดนึง

จุดเปลี่ยนอยู่ที่อาทิตย์ที่สาม ตอนที่เพื่อนร่วมคลาส (ก็กะเทยคนนึงที่ทำงานโฆษณา) ชวนกันไปแอบนั่งฟังฝรั่งแถวเอ็มควอเทียร์ วันนั้นกูพยายามสั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษเอง ไม่ใช้เมนูรูปภาพอีกแล้ว ทั้งๆ ที่มึนๆ แรกๆ แต่พอลองฟังฝรั่งโต้กลับมา พอลองสังเกตปากเขาแล้วพูดตาม มันทะลุปรุโปร่ง! ตอนกลับอาจารย์บอกว่า “About time!” นี่แหละนาทีที่รู้สึกว่ามันไม่ขัดเข็นแล้ว

ปัจจุบันเรียนจบไปสองเดือนกว่า รู้ตัวเลยว่าได้มากกว่าแค่ภาษา ระบบเค้ามันบังคับให้เราต้องฝึกทุกวันจนติดเป็นนิสัย แม้แต่ตอนตื่นนอนยังต้องท่องศัพท์ 5 คำก่อนเข้าห้องน้ำ สุดท้ายไม่ต้องใช้ล่ามเวลาแชทกับฝั่งสิงคโปร์แล้วก็โซ้ย!