มีนี่แหละ ที่ผ่านมาหลายเดือนรู้สึกว่าภาษาอังกฤษมันติดขัด ทั้งติดต่อลูกค้าต่างชาติ อีเมลก็เขียนยังไม่คล่อง เลยคิดว่าถึงเวลาต้องลงคอร์สเรียนซะที
เริ่มต้นตามหาคอร์ส
เปิดกูเกิ้ลเสิร์ชคำว่า “เรียนพูดอังกฤษที่ไหนดี” ออกมาเป็นโคตรเยอะ หยิบมา 5 คอร์สที่คนรีวิวบ่อยสุด เปรียบเทียบแบบจัดเต็มทุกคอร์สเลย
ขั้นแรก : คุยทุกแพลตฟอร์มให้พอใจเรื่องราคา
จัดตารางนัดโทรหาทุกสถาบัน ทดลองพูดอังกฤษสายด่วนให้ฟังทุกที่ บางที่ครูฝรั่งชัดเจนดี แต่ค่าเทอมโคตรแพง บางที่ราคาถูก แต่ครูเอเชียสำเนียงแรงจนงง บอกตรงๆว่าปวดหัวไม่น้อย
5 คอร์สที่ลองจ่อเป้า
- คอร์สแดง : อัดวีดีโอเยอะมาก แต่พอส่งการบ้านกลับมาอาทิตย์นึง
- คอร์สฟ้า : ดันให้พูดหน้าคลาสทั้งห้อง เหงื่อแตกทุกครั้งที่รอคิว
- คอร์สเขียว : ครูใจดีแต่สอนวนซ้ำแบบเดิมๆ สองอาทิตย์เริ่มเบื่อ
- คอร์สม่วง : โปรโมทว่ามีแอพลิเคชั่นโคตรล้ำ แต่ใช้งานจริงมั่วมาก
- คอร์สส้ม : รายเดือนไม่ยืดเยื้อ คลาสกลุ่มเล็กจนครูแก้สำเนียงให้เราได้ตลอด
ปัญหาที่เจอตัวเป็นๆ
เลือกเรียนคอร์สฟ้ากับคอร์สแดงไปสองเดือน สรุปว่าทั้งเหนื่อย ทั้งเสียตังค์ฟรี
ปัญหาโรงงาน :
ครูคอร์สแดงแทบไม่จำชื่อเราได้ แก้แบบฝึกหัดผิดๆถูกๆ ส่วนคอร์สฟ้านั้นโคตรแย่ เพราะคลาสใหญ่เกิน จนครูแม่งไม่เห็นเราพูดสำเนียงเพี้ยนตรงไหน เรียนจบแค่สัปดาห์ที่ 3 ก็จับใจความไม่ทันแล้ว สุดท้ายได้อะไรไม่รู้เต็มๆ
ทางเลือกที่คอขาดบาดตาย
หมดไฟกับสองคอร์สแรก เลยทุ่มสุดตัวให้คอร์สส้มและคอร์สเขียวไปต่อ
รอดเพราะกลุ่มเล็ก :
คอร์สส้มได้เปรียบที่คนต่อคลาสน้อยมาก เราได้พูดแชทสดกับครูทุกวัน แก้สำเนียงเสียงตัว “r” ได้ภายในอาทิตย์เดียว ส่วนคอร์สเขียวแม้เนื้อหาเดิม แต่พอเรียนออนไลน์ย้อนหลังตอนดึกได้เลย นอนฟังไปนอนหลับไปก็ยังไหว
ใช้เวลาย่ำๆสามเดือนกว่าจะตัดสินใจปักหลักที่คอร์สส้ม ตอนนี้อาจยังพูดไม่เป๊ะ แต่เบสิคๆอย่างสั่งอาหาร ต่อรองราคา แชทอีเมลได้ไวขึ้นชัดเจน รู้สึกไม่ประหม่าเหมือนแต่ก่อน
บทเรียนที่จ่ายด้วยเงินท้ายที่สุด :
ถ้าโง่เรื่องสำเนียงตั้งแต่แรก หาที่เรียนคลาสเล็กไว้ก่อน อย่าไปกั๊กเงิน ไม่งั้นเสียเวลาเหมือนเรา!