พอดีเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนึกขึ้นได้ว่าควรไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม เพราะทำงานแล้วเจอฝรั่งทีไรเป็นอันต้องหลบหน้าเสมอ บวกกับเงินเดือนก็ไม่เยอะ เลยตั้งใจหาคอร์สเรียนที่ราคาไม่แพงแต่ได้ผลจริง
ขั้นแรก : ย่ำแย่ค้นหาข้อมูลในเน็ต
ก่อนอื่นเลยเปิดกูเกิลขึ้นมา พิมพ์พวกคำว่า “คอร์สภาษาอังกฤษราคาถูก” กับ “เรียนภาษาอังกฤษรีวิวดี” เข้าไปเต็ม ๆ ผลลัพธ์ออกมาเพียบแต่มันน่ากลัวมากก มีบางที่รีวิว 5 ดาวหมดแต่ดูแล้วเหมือนรีวิวจ้าง ตอนนั้นรู้สึก ปวดตับ เลยครับ
- เช็กร้านในเพจเฟสบุ๊ค : พวกกลุ่มเรียนภาษาในเฟส มีคนโพสถามบ่อย ๆ แต่พอเข้าไปอ่านคอมเม้นก็ดราม่ามั่ว
- ดูเว็บบอร์ดเด็กมหาลัย : มีกระทู้แนะนำหลายที่แต่ส่วนใหญ่ราคาสูงจนผมถอดใจ
- ส่องแอพเรียนภาษาฟรี : ลองลง Duolingo กับพวกแอพฟรี แต่มันกระโดดไปเรื่อย ไม่ได้เรียนลึกจริงจัง
ขั้นต่อมา : ถามคนรอบตัวแบบด่วนจี๋
ไปนั่งบ่นกับพี่ที่ออฟฟิศว่า “ผมอยากเก่งภาษาอังกฤษแต่เงินน้อยนะพี่” ปรากฏว่าพี่เค้าเคยเจอสถานการณ์เหมือนกัน! เค้าบอกว่าไปเรียนสถาบันแถวคลองเตย ชื่อโรงเรียนน่ารัก ๆ นั่นแหละ คอร์สสนทนาราคาแค่ 2,900 บาท เรียน 20 ชม.
รีบตามล่าหาข้อมูลต่อเลยครับ เปิดดูรีวิวใน กลุ่มรีวิวคอร์สภาษาฟรี เจอคนโพสต์ว่า “เรียนที่นี่จบไป 3 เดือน ตอนนี้ทำงานรีสอร์ทกับฝรั่งได้เลย” ทั้งยังมีรูปใบรับรองจากสถาบันเก่าแก่ในอเมริกา ทำให้รู้สึกไว้ใจได้นิดนึง
ขั้นตัดสินใจ : ลุยเข้าไปทดลองเรียน
นัดวันไปที่สถาบัน แอบประหม่ามากเพราะเก่งแต่ภาษาไทย ครูใหญ่ใจดีมากให้ทดลองเรียนฟรี 1 ชม. พอเข้าไปห้องเรียนเน้น เลิกท่องแกรมม่า มาเล่นบทสนทนา โดยให้เราจับคู่ถามตอบแบบวันต่อวัน เช่น
- “How to order cheap street food?”
- “Tell me about your favorite Thai dessert”
ครูพูดคำไหนไม่รู้เรื่องจะใช้ท่าทางช่วยจนเราเข้าใจ ตอนแรกแป๊ก ๆ แต่ครึ่งชั่วโมงหลังเริ่มแฮปปี้เพราะเพื่อนร่วมคลาสพูดภาษาไทยเพี้ยนกว่าผมอีก 555
ขั้นเรียนจริงจัง : อึ้งกับผลลัพธ์
หลังจากลงคอร์สไป 1 เดือนเต็ม (เรียนอาทิตย์ละ 3 ครั้ง)
- สัปดาห์แรก : ฟังออกแค่ 30% ขี้อายไม่กล้าอ้าปาก
- สัปดาห์ที่สาม : เริ่มโต้ตอบง่าย ๆ ได้แบบไม่ต้องนั่งนึกก่อน
- สัปดาห์สี่ : ไปเที่ยวบางแสนเจอฝรั่งหลงทาง ชี้ทางให้เป็นภาษาอังกฤษได้แบบฉลุย!
เทคนิคที่ได้ใช้เยอะสุดคือ สมมติสถานการณ์แปลก ๆ เช่น ถ้าตอน 2 ทุ่มมีคนเอาลิ้นจี่มากินที่บ้านจะพูดยังไง ครูบอกว่า “จริง ๆ ชีวิตไม่มี pattern ตายตัวนะ”
สรุป : คุ้มค่ากว่าเงินเดือนที่เสียไป
หลังจากเรียนจบ 3 เดือน ได้รับวุฒิบัตรกระดาษหนา ๆ ใบหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือ กล้าพูดจริง ๆ แม้แกรมม่ายังร่อแร่ ทีมฝรั่งที่ออฟฟิศเริ่มชวนคุยกับผมบ่อยขึ้นเพราะผมไม่หลบแล้ว และล่าสุดเจ้านายยังพยักหน้ารับรู้เวลาเราตอบอีเมลเองได้
เคล็ดลับคนเงินน้อย คือ อย่าไปคลั่งกับชื่อเสียงโรงเรียนหรู เพราะบางที่เรียนฟรีในยูทูบก็เยอะ แค่ต้องหาจุดที่เน้นปฏิบัติจริงแบบนี้ ตามสถาบันเล็ก ๆ ที่ค่าครูไม่แพง อ้อ… อย่าลืมดูว่ามีรีวิวเรียงหน้ากระดาษในพันทิปกับเฟสกลุ่มลับด้วย เพราะรีวิวแปะเว็บมักจะจัดเต็มเกินจริงครับ!