ทำไมควรเรียน อังกฤษ ฟรี? 3 เหตุผลสำคัญไม่ควรมองข้าม

0
2

วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวว่าทำไมเราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษฟรีไปเลย เผื่อใครกำลังมองหาทางเลือกอยู่

จุดเริ่มต้นง่ายมาก

เมื่อเดือนก่อนนั่งดูบิลค่าเรียนพิเศษลูก พังมาที่ค่าเรียนคอร์สติวอังกฤษตัวเอง เดือนนึงเกือบสามพัน แพงกว่าค่านมลูกอีกนะนั่น แกะใบเสร็จทีไรมือสั่นทุกที

ลองของฟรีดูสิ

วันรุ่งขึ้นลบแอปเรียนภาษา Premium ทิ้งหมด ตั้งใจจะใช้ของฟรีล้วนๆ เริ่มจาก:

  • เปิด YouTube หาคลิปครูฝรั่งสอนพื้นฐานฟรี เจอเยอะจนล้นสมอง
  • โหลดแอปดิกฯ ฟรีตัวเก่าเก็บในโทรศัพท์ หน้าตาห่วยแต่ใช้ได้
  • ขอหนังสือ Basic Grammar เก่าจากห้องสมุดชุมชน

เจอปัญหาจุกจิก

อาทิตย์แรกนี่ทรมานชัดๆ หาบทเรียนไม่เป็นระบบ ต้องกระโดดไปมาหลายแพลตฟอร์ม บางวันเรียนจากยูทูว บางวันเปิดแอป บางวันก็แยกระเบียบหนังสือไม่ถูก พอตกเย็นเริ่มท้อ:

  • นั่งจดศัพท์เฉยๆ ไม่รู้ว่าใช้ยังไง
  • ฟังคลิปตัวอย่างงงเป็นไก่ตาแตก
  • แบบฝึกหัดในหนังสือมีเฉลยแต่ไม่มีคำอธิบาย

ปรับสูตรเองแบบมั่วๆ

ตัดสินใจไม่เอาวิชาการเข้าแล้ว เปลี่ยนมา:

  • เปิด Spotify ฟังพอดแคสต์ฝรั่งตลอดวัน ฟังไม่รู้เรื่องก็ฟังไปก่อน
  • ดูการ์ตูน Netflix ปิดซับไทย เปิดซับอังกฤษแทน
  • วันไหนขี้เกียจแทบไม่เปิดหนังสือ หยิบแต่โทรศัพท์ท่องศัพท์ในแอปฟรี

ผลลัพธ์ที่ไม่ได้คาดคิด

ผ่านไปเดือนครึ่ง เริ่มแว๊บเข้าใจคำในเพลงฝรั่ง บางทีฟังข่าวสั้นๆ รู้เรื่องเป็นประโยค แล้วแบบฝึกหัดแกรมม่าที่เคยงง ตอนนี้ทำถูกเฉลยแบบอารมณ์ดี ส่วนเรื่องค่าเทอม…เดือนนี้เหลือเงินเก็บเพิ่มอีกสามพันแน่นอน

สรุปให้ชัดๆ เลย

สามเหตุผลที่ต้องเรียนฟรีสักครั้ง:

  • เสียตังค์แพงไม่ใช่คำตอบ: เอาเงินไปจ่ายค่านมลูก/ค่ากินดีกว่า
  • ทดลองล้มเหลวได้โดยไม่เจ็บตัว: ลองสิบวิธีก็เปลี่ยนได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องคอร์สหมดอายุ
  • รู้ตัวเองก่อนว่าควรเรียนแบบไหน: เรียนฟรีไปเดือนนึงจะรู้เลยว่าแบบเรียน/แบบฟัง/แบบพูด แบบไหนที่เหมาะกับเรา

ตอนนี้ชีวิตติดนาฬิกาปลุกฟังพอดแคสต์ตอนตีห้า แวะเวียนไปห้องสมุดอาทิตย์ละสองครั้ง เสียเงินศูนย์บาทแต่สมองได้พัฒนาจริง แค่ลองเริ่มดูสิ