วันก่อนเราเจอปัญหาใหญ่เลยนะ น้องๆ ที่มาเรียนพิเศษภาษาอังกฤษที่บ้านหลังนี้ ส่วนใหญ่ไม่กล้าพูดเลย ท่องแกรมม่าเป๊ะ แต่พอให้พูดเป็นประโยคก็ตะกุกตะกัก เราเครียดมาก เพราะสอนมาตั้งปีแล้วยังไม่เห็นผลเท่าไหร่。
เลยชวนน้องๆ มาคุยกันแบบจริงจัง
เราไม่ยัดเยียดวิธีสอนเดิมแล้วนะ จัดชาเย็นกับขนมหวาน เปิดวงคุยแบบสบายๆ ถามตรงๆ เลยว่าเรียนมานานแล้วรู้สึกยังไง อะไรที่ยากสุด。ฟังคำตอบแล้วเราตกใจมาก:ส่วนใหญ่ตอบว่า “ครูคะหนูไม่รู้ว่าเรียนแกรมม่านี้ไปใช้พูดยังไง” อ๋อ… ปัญหามันอยู่ตรงนี้เอง!
คิดแผนยกเครื่องการสอน
เราขังตัวเองในห้องสองวัน ถลุงกระดาษแผ่นใหญ่หมดเป็นกอง ลองแล้วลองอีก จนออกมาเป็นไอเดียบรม:เปลี่ยนห้องเรียนให้เป็นซีนในชีวิตจริง เน้นที่“เอาภาษาอังกฤษมาใช้ตอนนี้เลย”。
- ยกเลิกตำราแบบเก่า เขียนสถานการณ์ในร้านอาหาร/ห้าง/สนามบินใหม่หมด
- ย้ายเก้าอี้ไปกองข้างห้อง ให้มีที่ว่างให้เดินได้
- เตรียมบัตรคำแบบสุ่มเยอะแยะ เอาไว้ดึงมาใช้เวลาสนทนา
ลงมือเรียนแบบจัดเต็ม
คาบแรกเราสุดๆ ไปเลย เริ่มจากบทบาทสมมติสั่งกาแฟ:เราเล่นเป็นพนักงานสตาร์บัคส์จอมหงุดหงิด。น้องต้องต่อรองเป็นภาษาอังกฤษสดๆ จะสั่งลาเต้เย็นแถมวิปครีม。พอน้องติดขัด เราก็หยิบบัตรคำ “I’d like…”/ “Could you…” โยนใส่โต๊ะทันที ให้หยิบไปใช้。ปรากฏว่า… น้องม.3 คนที่เคยพูดไม่ออก ตะโกนลั่น “HEY! Could you add EXTRA whip cream PLEASE?” อย่างกับฝรั่งมาเกิด!
ขยายผลไปอีกขั้น
เห็นไฟลุกแล้ว เลยจัดหนักด้วยเกมเต้นรำแทรกแกรมม่า!เราปลดหูฟังใส่เพลงสุดดัง ให้เด็กๆ เดินสลับกันเหมือนอยู่ในผับ。พอเพลงหยุด ทุกคนต้องหันไปหาเพื่อนข้างกาย ยิงคำถามแกรมม่าที่เราโชว์บนจอทันที。ม.2 ขี้อายสุดห้อง โดนให้ถาม “What would you do if you won lottery?” ปรากฏว่ากล้าตอบ“I’d buy this tutorial first! HAHA!”。ครูแทบร้องไห้!
ผลลัพธ์ที่ดียกกำลังสอง
ผ่านไปเดือนนึง เราเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดมาก:
- เด็กๆ กล้าพูดโดยไม่ต้องรอให้ถูกแกรมม่าเป๊ะ
- เอาแกรมม่ามาประยุกต์ใช้เป็นธรรมชาติ
- ยอมลืมสั่งอาหารเป็นไทยในร้านในห้าง
ครั้งล่าสุดพอมีน้องคนหนึ่งบอกว่า “ครูคะ พอหนูไปเที่ยวพัทยา ลองสั่งก๋วยเตี๋ยวร้านฝรั่งเป็นอังกฤษเองได้นะ” นี่คือความสำเร็จที่ทำให้ครูซี้ดน้ำตา ไม่ใช่แค่คะแนนสอบแต่อยู่ที่ความกล้าใช้ภาษา。เจอวิธีนี้แล้ว เราจะไม่กลับไปสอนแบบนั่งกระดิ่งกระด๊านอีกเด็ดขาด!