วันนี้อยากแชร์ประสบการณ์ฝึกภาษาอังกฤษของตัวเองที่ทำมา 2 เดือนได้ผลชัดมากก
ก่อนหน้านี้พยายามเรียนภาษาอังกฤษมาหลายรอบแต่ท้อตลอด เหมือนตีลังกาอยู่กับที่ หลังๆ เลยลองเปลี่ยนวิธีดู ไม่ยึดตำรา ไม่ต้องสมัครคอร์สแพงๆ เลยค่อยๆ คลานมาได้แบบไม่รู้ตัว
ปรับสมองก่อนฝึก
- เลิกซีเรียสกับแกรมม่าไปก่อน – เอาจริงเวลาเราพูดภาษาไทย ใครมานั่งวิเคราะห์ส่วนประธาน กริยา เราก็พูดไม่ได้เหมือนกัน
- ตั้งกฎ “ไม่ต้องเป๊ะ” – ผิดได้ หยุดกลางคันได้ สำเนียงเพี้ยนได้ แค่ให้มันไปต่อเรื่อยๆ
ฝึกฟังแบบไม่กดดัน
เริ่มจาก เอาพอดแคสต์ฝรั่งมาเปิดเป็นเสียงหลังบ้าน ตอนล้างจานหรืออาบน้ำ เปิดคลอไว้เฉยๆ ไม่ต้องตั้งใจฟังด้วยซ้ำ ทำไปสักอาทิตย์นึง พอไปเปิดฟังอีกที ดีงี้ด! หูเริ่มแยกแยะคำเป็นคำแล้ว แม่งเซ็งตรงที่เจ้าของพอดแคสต์หัวเราะเก่ง ฮาตลอดเวลา เบลอๆ ไปหมด 555
ขั้นพูด…ขั้นอายแต่ต้องทำ!
ถึงเวลา ยืนหน้ากระจกแฉตัวเอง ตอนแรกเริ่มง่ายๆ แค่อ่านคำศัพท์ในห้องออกเสียงดังๆ วันแรกลิ้นแข็งเหมือนเคี้ยวกระดาษทราย วันที่ห้าเริ่มเลียนแบบการออกเสียงของคนในยูทูป ซ้อมประโยคง่ายๆ เช่น “today I eat fried rice” กล้าๆ กลัวๆ แต่สุดท้ายก็ อัดวิดีโอตัวเองไว้ดู นี่คือการทรมานที่สุดตอนเปิดดู playback แต่เห็นจุดผิดชัดแจ๋ว!
ฝึกอ่านแบบไม่พังสมอง
ไปร้านหนังสือมือสองขายเล่มละ 20 บาท เอาเล่มการ์ตูนเด็กฝรั่งนี่แหละ! มันมีรูปประกอบเยอะ อ่านไม่ต้องเปิดดิกตลอดเวลา ตอนแรกนึกว่าจะเบื่อ ปรากฎว่ามันสนุกดี ตอนอ่านหนังสือเด็กมันมี pattern ซ้ำๆ ช่วยให้จำโครงสร้าง ได้เองโดยไม่ต้องท่อง เดี๋ยวนี้อ่านข่าวสั้นๆ ใน app ได้โดยไม่หงุดหงิดแล้ว (แม้จะรู้ศัพท์แค่ 70% ก็ตาม)
ขั้นเขียน…ปล่อยของใส่กระดาษ
หาสมุดเก่าเล่มหนึ่ง เขียนไดอารี่ภาษาอังกฤษวันละ 3 บรรทัด เริ่มจากการเล่าวันนี้ทำอะไรไปบ้าง บลาๆ ใช้กูเกิลทรานสเลตช่วยตอนติดจริงๆ เขียนเสร็จเอาไปใช้ หาอาจารย์ฟรีในเน็ต เช็คแกรมม่าประจำวัน แรกๆ กระดาษแดงเต็มหน้า ตอนนี่เฉลี่ยถูกมากขึ้นทุกอาทิตย์ เคล็ดลับคือ หัดเขียนแบบไม่กลัวไวยากรณ์ พอได้ feedback มาแก้จุดเดิมซ้ำๆ มันซึมเข้าเนื้อได้ดีกว่าเรียนโครงสร้างล้วนๆ
สรุปแล้ว…ที่มันเวิร์คเพราะ
- เน้นทำแบบไม่กดดัน – ทำแค่ 15-20 นาที/วัน ดีกว่าเบียดเวลาเรียนยาวๆ แต่ทำแป๊บเดียวก็ทิ้ง
- ได้ใช้จริงทุกทักษะ – แต่ละวันครบฟัง-พูด-อ่าน-เขียนแบบสลับไปมา
- ทำคนเดียวได้ไม่ต้องพึ่งใคร – ไม่ต้องรอคอร์ส เรียนแค่กระดาษกับมือถือเครื่องเดียวก็ไปรอด
เท่าทีผ่านมา ความกลัวเวลาคุยกับฝรั่งลดลงได้เห็นๆ ตอนนัดพี่เลี้ยงแกเล่านิทานให้ลูกฟัง พูดติดขัดก็ยังมี แต่ไม่ถึงขั้นสมองดับสนิท แค่ตอบได้เป็นคำๆ ลูกค้าฝรั่งในร้านนี่เริ่มเข้าใจออเดอร์พวกแกได้แล้ว…ถึงมันจะช้าหน่อย แต่ก็ภูมิใจในก้าวเล็กๆ ของตัวเองมาก น่าจะไปต่อได้อีกแน่!