ก็อย่างว่าคนเคยเรียนอังกฤษมาหลายปีแต่พูดไม่ได้เลย พอเห็นเพื่อนไปเที่ยวต่างประเทศคุยกับฝรั่งคล่องปร๋อก็น้ำลายไหล เลยท้าทายตัวเองว่าต้องพูดให้ได้ภายในเดือนเดียว พี่เริ่มจากตรงนี้เลย:
ขั้นตอนที่1 : หยุดเรียนแกรมม่าร์ไปก่อน1เดือน
เปิดสมุดไวยากรณ์ทิ้งไปเลย! แค่จับประโยคง่ายๆที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องสนโครงสร้าง แบบเมื่อก่อนที่มัวนั่งจดว่า subject+verb+object แค่จำว่า “I want coffee” = อยากได้กาแฟ ใช้แบบเด็กๆไว้ก่อน
ขั้นตอนที่2 : ขุดคลิปสอนเด็กฝรั่งในยูทูป
เสิร์ชคำว่า “English for kids” เจอคลิปการ์ตูนสอนสี/สัตว์/ของกิน ฟังวันละ20นาทีแบบไม่ต้องเปิดซับ พยายามเลียนเสียงทุกคำที่ได้ยิน พูดตามแม้บางทีมั่ว! เหมือนเด็กทารกที่ยังพูดไม่ชัดแต่ยังพยายามอยู่
- ช่วง3วันแรก:ปากแข็งมาก พูดตามไม่ทัน
- อาทิตย์แรก:เริ่มจับจังหวะการออกเสียงได้
- อาทิตย์2:ฟังประโยคง่ายๆเข้าใจโดยไม่ต้องแปลไทยในหัวแล้ว
ขั้นตอนที่3 : หาเพื่อนฝึกในแอปฟรี
โหลดแอพคุยกับคนต่างชาติ แชทวอยซ์กับเพื่อนฟิลิปปินส์ที่อยากเรียนไทย ตกลงกันว่า วันไทย-วันอังกฤษสลับกัน ตื่นเต้นมากตอนกดไมค์ครั้งแรก เหงื่อแตก! แต่พอมันเริ่มถามกลับว่า “How about you?” ก็ต้องพยายามต่อ
เทคนิคเด็ด: เปิดสมุดจดวลีที่คู่สนทนาใช้บ่อย เช่น “Just a moment” หรือ “Same as me” เอามาแปะฝาผนังห้องน้ำ อ่านทุกเช้าตอนแปรงฟัน
ขั้นตอนที่4 : รวบรวมประโยคประจำตัว
เตรียมประโยคเด็ดไว้20คำถาม+คำตอบที่ต้องใช้ประจำ เช่น
- Where are you from?
- What’s your job?
- Can you repeat that?
ท่องแบบไม่ต้องคิดแกรมม่าร์ แค่ให้มันหลุดออกมาจากปากได้อัตโนมัติ เวลาตกหลุมพูดไม่ถูกจะได้ดึงประโยคนี้ขึ้นมาก่อน
ขั้นตอนที่5 : อัดเสียงตัวเองทุกคืน
ก่อนนอนเอาขวดแชมพูมาเป็นไมค์ อัดเสียงพูดภาษาอังกฤษ3นาที พูดเรื่องอะไรก็ได้ในห้อง พอฟังย้อนหลังจะเห็นจุดผิดชัดมาก ตอนแรกได้ยินเสียงตัวเองพูดแล้วขำจนตกเก้าอี้ แต่เดือนหลังเริ่มจับผิดตัวเองได้ว่าเสียง “R” ยังไม่เป๊ะ
ครบ30วันนอนย้อนดูคลิปที่อัดไว้ตั้งแต่วันแรก ตอนนั้นพูดได้แค่ “Hello… My name…” เดี๋ยวนี้ชวนเพื่อนต่างชาติคุยเรื่องหนังได้5นาทีโดยไม่ตัน สุดท้ายเคล็ดลับคืออย่ากลัวผิด อย่าหยุดพูด แค่ฟัง+ลอกเลียน+พูดออกไป แม้เป๊ะไม่ร้อยก็ยังเก่งกว่าเก็บความเงียบไว้ในหัวนะ