วันแรกที่ตั้งใจจะเรียนภาษาอังกฤษเนี่ย เหมือนคนโดนฟ้าผ่าเลยครับ พอดีเจองานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ แต่นึกขึ้นได้ว่าสนทนายากโคตร ฟังออกแต่ตอบไม่เป็น พี่เขาจับประชุมแล้วให้พูดไอเดีย เสียงแหบแห้ง พูดติดขัด หัวหน้าโยนงานมาให้แก้ไขอีเมลล์ฝรั่ง ใช้ Google Translate เต็มรูปแบบแล้วโดนแซวว่าส่งเมลล์แบบคนต่างดาว
เริ่มมั่วเหมือนแมลงเม่า
- เปิดแอปสอนภาษาทุกอันที่หาได้ ตื่นเต้นโหลดมา 10 แอป อันนี้เล่นสนุก อันนั้นดูน่าเรียน แล้วอยู่มาวันหนึ่ง… มันดันมาทวงเงินซื้อ Premium โผล่พรึ่บแบบไม่รู้ตัว บางแอปเปิดได้ 3 วันก็เบื่อแล้วครับ เหมือนเล่นเกมเก็บคะแนนไม่เห็นพัฒนาการ
- ยัดแกรมม่าร์ลงสมอง ขุดหนังสือแกรมมาร์สมัยม.ปลายขึ้นมา เปิดได้หน้า 5 นึกได้ว่าคาบแรกในมหา’ลัยคือหลับคาหนังสือเล่มนี้! รู้เลยว่าถ้าเริ่มแบบนี้ 1 เดือนไม่รอด
- พยายามดูละครฝรั่งทั้งๆที่ไม่รู้เรื่อง นั่งจ้องหน้าซับไทยไปด้วย ดูไป 20 นาที จำได้แค่คนนั้นชื่อ John กับประโยค “What’s up?” สรุปแล้วมันไม่ช่วยให้พูดได้
โดนตัวจริงเลยต้องวางแผนเอง
เช้าวันอาทิตย์นึง ตื่นมาก็ทนไม่ไหวแล้วครับ หยิบกระดาษขีดๆ เขียนเลยว่า “เป้าหมายขั้นต่ำ : เดือนนึงต้องพูดขอ-ให้-ซื้อของเองในชีวิตจริงได้ โดยไม่พึ่งแอปแปล” เลยคิดแผนฟรีๆ แบบไม่ต้องเสียตังค์ขึ้นมาดังนี้
- เน้นซ้ำที่ใช้บ่อย: ตอนข้าวเที่ยงสั่งข้าวกะเพื่อนร่วมงาน เคยพูดว่า “Give me Pad Thai.” หัวเราะกันเละ ฉุดคิดได้ เลยเก็บประโยคใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆก่อน ประโยคสั่งอาหาร ถามราคา ขอทาง แค่นี้พอ
- เปิด Youtube เป็นครูฟรี: หาช่องฝรั่งที่พูดช้าๆ ชัดๆ เน้นย้ำตามทุกประโยค โดยเฉพาะตอนเช้าก่อนไปทำงาน มันเวิร์กกว่าเกมในแอป เพราะได้ยินเสียงตัวเองด้วย
- เปลี่ยนโทรศัพท์ให้กวนใจ: ตั้งค่าทุกอย่างให้เป็นภาษาอังกฤษ เล่นปวดหัวตอนแรกครับ! หา Setting ไม่เจอ แต่พอผ่านไปอาทิตย์นึงเริ่มชิน จำคำศัพท์ง่ายๆ ได้เองโดยไม่ทันตั้งใจ
- ทำสมุดจับผิดตัวเอง: สมุดจิ๊บๆ เล่มนึงไว้ใกล้มือ เวลาพูดผิดหรือเขียนผิด จดแค่ประโยคที่เพิ่งพลาดไป แล้วแก้ให้ถูกไว้ด้านล่าง มันไม่ต้องเยอะ แต่แก้เรื่องเดิมที่มักลืมบ่อยๆ
สัปดาห์สุดท้ายมันถึงบางอ้อ
สามอาทิตย์แรกคือยังพูดตะกุกตะกัก พอเข้าอาทิตย์ที่สี่เหมือนสวิทช์ติด! เพราะยอมเดินเข้าเซเว่นแถวบ้านแบบหัวสั่น แล้วบังคับปากตัวเองให้ถามว่า “How much for this coffee, please?” พนักงานยิ้มตอบ “Thirty-five baht.” พอได้ยินคำตอบชัดๆ แถมยังซื้อของได้เอง เหมือนได้ยาครอบจักรวาล หลังจากนั้นก็กล้าลองถามนู่นนี่ในชีวิตจริงต่อครับ แม้แต่เวลาอยู่ร้านข้าว ฟังไม่ทันก็ไม่กลัวแล้ว ยกมือทวนเลย “Can you say it again?”
ผลลัพธ์จบเดือนที่วัดได้ชัดคือ หัวหน้าบอกตอนประชุมว่า “โห ลองดูภาษาอังกฤษดูมั้ย? ทำไมดูเข้าที่เข้าทางจัง” นี่ขนาดยังอ๋อยากเลยนะ แต่ความกล้ามันบ่มขึ้นมาจากการยอมล้มคว่ำคะมำดินทุกวัน จนตอนแม้แต่เวลากดดู Youtube มันเริ่มโผล่ Recommended เป็นคลิปฝรั่งให้เห็นขึ้นมาเองแบบงงๆ เลยครับ