เป็นอาทิตย์ที่แล้วว่างๆ แถวบ้านอะ เลยนั่งคิดว่าเราควรทำอะไรดี คืนประโยชน์ให้ชุมชนได้มั้ย แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเราก่อนเรียนอังกฤษดีอยู่หรอ เพื่อนบ้านหลายคนก็พูดอังกฤษไม่ค่อยได้ แปลว่ามันคือช่องทางที่คนต้องการ
เลยเดินเข้าไปในห้องเก็บของแล้วเอาของเก่าๆ ออกมา นึกถึงสมัยเรียนหนังสือเลยอะ ทั้งหนังสือ Grammar ที่ไม่ได้เปิดมาสิบปี กับแผ่น CD สอนการออกเสียงที่มีฝุ่นจับหนาเต๊อะ แค่นำมันออกมาก็สนุกแล้วอะ
สตาร์ทแบบเน้นของฟรี
เริ่มแรกว่าจะให้คนมาเรียนที่บ้านเลย ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย มันง่ายดี แต่ตกกลางคืนนึกขึ้นได้ว่าบ้านมันคับเกินอะ โต๊ะเก้าอี้ก็ไม่พอ ต้องเปลี่ยนแผนใหม่
รุ่งขึ้นเลยตื่นเช้าสุดในรอบปี กวาดตาไปรอบๆ ชุมชนแล้วส่องตลาดนัดข้างบ้าน มีพื้นที่ว่างๆ ใกล้ต้นโพธิ์น่าจะได้ เลยแบกโต๊ะพลาสติกเน่าๆ เก้าอี้ 3 ตัวกับไวท์บอร์ดที่เริ่มเหลืองแล้วตั้งที่โน่น กางป้ายมือเขียนเองงูๆ ปลาๆ ว่า “สอนภาษาอังกฤษฟรี ทักมาได้เลย ไม่ต้องจ่ายตังค์!” แค่ทำป้ายก็เหงื่อท่วมแล้วอะ
นัดเจอกันยังไงให้ได้คนมา
- เอาป้ายไปแปะตรงแผงขายหมูปิ้งก่อนเลย คนเดินผ่านเยอะดี คนขายหมูปิ้งดูงงๆ 555
- อัดรูปลงกลุ่มเฟสบุ๊คชุมชน ตั้งกระทู้ถามว่าใครสนใจ มียอดกดไลค์สิบกว่า ไม่มีใครเม้นต์เลยอะ เจียมตัวมาก
- สุดท้ายไปคุยสดๆ กับรุ่นน้องบ้านใกล้ๆ ว่า “มาเรียนดิ ไม่ต้องเก่งก็ได้ แค่เริ่มก่อน” พี่แกดูลังเลแต่ก็ขำๆ บอกว่าถ้าว่างจะแวะมา
วันแรกที่ตลาดไม่มีใครมาเลยอะ นั่งเหงาหงือตั้งแต่บ่ายโมงจนพระอาทิตย์จะตก เหมือนนั่งคาปูชิโน่ไม่มีใครแวะเวียนมากินเลย เริ่มท้อแล้ว
เกมพลิกเพราะเด็กมัธยม
พอตกเย็น ก็มีน้องนักเรียนคนนึงเดินเขินๆ เข้ามาถามว่า “เรียนได้มั้ยครับ?” เรากรี๊ดในใจ “ตื่นเถอะ!” เริ่มอธิบาย Present Simple Tense นิดหน่อย สอนคำศัพท์รอบตัว เช่น “bench” (เก้าอี้ยาว), “street vendor” (แม่ค้า) ก่อนกลับน้องบอกเพื่อนมาเรียนด้วย สามวันถัดมามีเด็กเพิ่มมาเป็นหกคน! อาการดีขึ้นแค่ไหนรู้มั้ย คือเหมือนได้เครื่องเป่ามาเป่าไฟตอนหุงข้าวใหม่ๆ
ช่วงนี้ก็สนุกแล้วอะ ยกของไปตั้งเป็นประจำทุกเย็น ให้เด็กทายศัพท์จากรูปวาดก้นๆ บนไวท์บอร์ด บางทีก็สอนคำสแลง เช่น “What’s up?” นี่แปลว่าสวัสดีด้วยนะ 555 เด็กๆ เฮาประชันเสียงสูงกันตลอด
ความไม่คาดฝันแต่มีค่า
- มีป้าขายกล้วยทอดแวะมาบอกว่า “ได้ไหมลูก อยากพูดกับคนจีนที่มาซื้อ” เลยตั้งศัพท์การค้าเฉพาะ เช่น discount (ลดราคา), crispy (กรอบ) ให้แก
- น้องคนแรกที่มาเรียนตอนนี้กลายเป็นผู้ช่วยเลยอะ ช่วยสอนการบ้านเพื่อน แม่งรื้น้องๆ ทุกวันก็มา อันนี้ความภูมิใจล้นมาก
- บางวันฝนพรำ ก็สอนในใต้ถุนบ้านแบบนั่งกับพื้น มันอาจจะดูมั่วแต่ก็อบอุ่นดีอะ
นี่ไม่ใช่การกุศลแบบหรูเลย ของฟรี หนังสือมือสองเก่าเก็บ ที่นั่งกระพรวนกระดึ๊บ บางครั้งก็มีเสียงแซวจากคนขายตลาดว่าอะไรมากระจุย แต่มันมีคนได้ประโยชน์ บางทีเรื่องเล็กๆ แบบนี้มันเติมเต็มทุกวันที่เราใช้ชีวิตมากกว่าทำงานประจำเสียอีก น่าจะทำต่อยาวๆ แล้วดูว่าอีกสามเดือนจะมีใครพัฒนาขึ้นบ้าง!