จุดเริ่มต้นจากความท้อแท้
คือบอกตรงๆ เลยเนอะ เคยรู้สึกหมดหวังกับการหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษมาก่อน เหมือนแดกบอร์จนมึนตึ๊บ! เริ่มจากลองดูรีวิวในเน็ตตู๊บนึง, เขียนเปเปอร์เต็มหน้าไปสอบถามราคาทางเมล, แอบเข้าไปนั่งฟังคลาสทดลองฟรี (Free Trial) ก็หลายที่เหมือนกันนะ อะไรมันจะเยอะแยะไปหมดขนาดนี้ฟะ! คลาสที่บอกว่า “พูดเหมือนเจ้าของภาษาใน 3 เดือน” ทั้งที่จ้างครูฟิลิปปินส์สำเนียงแข็งๆ, คอร์สออนไลน์ที่พรีเซนต์เด็ดแต่พอเรียนจริงครูเหมือนหุ่นยนต์อ่านสคริปต์, หรือแม้แต่สถาบันดังๆ ค่าเทอมหลักหมื่นแต่เน้นแกรมม่าแห้งๆ ไปไม่รอดสักที!
ลองผิดลองถูกจนเกือบถอดใจ
พยายามจัดระบบซะหน่อยดีกว่า ตั้งใจจะติวเข้มด้วยตัวเองก่อนไปลงคอร์สใหญ่เลยเปิด Duolingo ติ๊กต๊อกเล่นทุกวันเป็นเดือน แต่ผลคือพี่แกได้แค่คำศัพท์กระจุกกระจิกกับทักษะการกดรีสตาร์ทเก่งขึ้น! ไม่ไหวจริงๆ เพื่อนชวนสมัครคอร์สกลุ่มเล็กราคาพอฟัด ครูก็เป็น Native Speaker นะ แต่คลาสมันดันดึกไปหน่อย พอถึงเวลาเรียนไอ้เราก็หลับคาคีย์บอร์ด หรือถ้าไม่หลับก็เป็นฝ่ายฟังแต่เพื่อนเม้า�ท์มอยเรื่องงานเรื่องแฟน นานเข้าชักเริ่มรู้สึกว่า “เงินกูไปไหนวะ?” แล้วที่แย่กว่านั้นคือพอมีข้อสงสัยอยากถามเพิ่มก็หาทางติดต่อครูยากโคตร เจอแต่แอดมินตอบช้ามากๆ
ตะลุยหาจนเจอทางสว่าง
ตัดสินใจมานั่งเคลียร์ใจที่ร้านกาแฟ ซื้อนมอัลมอนด์มาจิบแล้วก็ปาดรายชื่อคอร์สที่เคยลองมาเป็นกองพะเนิน นี่คือสิ่งที่ต้องถามตัวเองให้ชัดฟะ:
- เป้าหมายเป๊ะเว้ย: จะเอาไว้พูดคุยไปเที่ยว? หรือเอาไปสอบ TOEIC เรียกเงินเดือน? เน้นเขียนอีเมล์ธุรกิจ? คลิกผิดนี่จบ!
- เรียนไปล้างจานไปก็ได้ปะ: พอจะมีชั่วโมงในชีวิตว่างตอนไหนบ้าง? เช้าตีห้า? เที่ยงวัน? เที่ยงคืน? เวลาไม่ตรงนี่อย่าฝืน
- ถุงเงินร้องไห้ได้ไหม: คิดงบที่จับต้องได้จริงๆ ไม่ใช่ฝันว่าถ้าเรียนเก่งๆ เดี๋ยวค่อยขายไต่ชำระทีหลัง
- ครูต้องเข้ากะพี่แก: ชอบเรียนกับคนไทยที่อธิบายเข้าใจง่าย? หรือจะทนสำเนียงครูฝรั่งหน้ายาว? ลองฟังดูก่อนนัด!
- รีวิวหมาหมาเถิดเทิง: เสิร์ชหาคอมเม้นต์ที่แม่นๆ เจอแต่รีวิวซื้อมา 100% หรือยัง? อย่าเชื่อรีวิวแบบถูไถ!
เจอคอร์สที่เวิร์คสุดขีด (สำหรับกู)
พอรู้ตัวเป๊ะๆ ก็ไปเจอคลาสนึงเข้าท่า คอร์สตัวต่อตัวแบบ “คุยตอนไหนก็ได้” นี่แหละของจริง! เลือกครูได้ตามสไตล์ที่ชอบ แล้วเค้าให้ซื้อชั่วโมงเป็นแพ็คเล็กๆ ก่อน แบบไม่ต้องเหมาจ่ายหมื่น แม่ง ประหยัดกว่าโดนบังคับเรียนแกรมม่ามาก! ครูเค้าไม่ตึงเครียด ชวนคุยเรื่องชีวิตประจำวัน ตั้งแต่สาระยันไร้สาระ บางทีแค่สั่งกาแฟหรือแซวแมวตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ฝึกไปวันนึงก็เริ่มนึกคำศัพท์ออกเกมส์ขึ้นชัดๆ!
เรื่องจริงอลังการที่ทำให้เก่งสุดๆ (โดยไม่ตั้งใจ)
แต่ที่ทำให้เก่งกระฉูดฉับพลันน่ะเหรอ? มันไม่ใช่คอร์สใดๆ ในโลกฟ้ะ! มันคือ เรื่องซวย ดันไปโดนตำรวจจับข้อหาตั้งกลุ่มคอลเซ็นเตอร์แก๊งคอลแล้งแก๊งมิจฉาชีพ! คือตำรวจแกจับผิดตัวสมมุติว่าเป็นพี่กัปตันแก๊ง มึงต้องฟ้องเป็นภาษาอังกฤษกับทนายที่เค้ามาจากต่างประเทศ แต่ปัญหาใหญ่คือไอ้เราพูดไม่ได้ฟะ! ตอนอยู่ห้องขังนี่โคตรสาหัส ต้องมานั่งยกิกเกิลเกิลหาแบบฝึกหัดเร่งด่วนเอง โคตรๆๆ ยื้อชีวิตด้วยประโยคง่ายๆ ประมาณ “I not criminal!” หรือ “Where toilet please?” แอบเห็นแฟนชั้นที่ถูกตำรวจเค้าจับมากับเรา แกแม่งรีบทิ้งเก้าอี้แล้วเดินหนีไม่มองตาซะงั้น!
ผ่านไปเจ็ดวัน พอพ้นข้อกล่าวหา (เพราะตำรวจเค้าเคลียร์แล้วว่าจับผิดตัว) ภาษาเรากลับพัฒนารัวกระหึ่ม จำได้แม่นกว่าคอร์สที่ลงมาเป็นปีๆ อีกฟะ! ออกจากสน. ปั๊บ ฉีกเอกสารคอร์สเรียนแพงๆ ทิ้งถังขยะหน้าสถาบันทันที เงินมันหายไปกับอะไรต่อมิอะไรเยอะไปแล้ว ตอนนี้รู้แหละว่าถ้าไม่มีตังค์หรือโง่เง่าตามลงคอร์สผิดๆ ท่องไว้เลย: “ฝึกในชีวิตจริง ตกงานก็อยู่ได้”