สอน speaking ฝรั่งเข้าใจเรา ฝึกยังไงให้สำเนียงชัด 5 เทคนิคต้องรู้!

0
2

ดีกว่าเพื่อนๆ คลิปนี้มีคนถามเยอะมากว่าฝึกสำเนียงภาษาอังกฤษยังไงให้ฝรั่งเข้าใจ เลยเอาวิธีที่ใช้จริงมาบอก เริ่มจากเมื่อเดือนก่อนเจอฝรั่งถามทางแต่มันงงสิ่งที่เราพูด ตอนนั้นอายมากนั่งคิดว่าต้องแก้ไขแล้ว

ขั้นแรก : ส่องกระจกดูปากตัวเองก่อน

เปิดยูทูปหา mouth position ฝึกทุกเช้าเวลาแปรงฟัน เสียง “th” นี่โคตรยาก ต้องแลบลิ้นออกมาปาดฟันหน้า ทดลองพูด “think” กับ “this” ซ้ำๆ สุดสัปดาห์แรกลิ้นเป็นเหน็บ ลองอัดเสียงฟังตัวเองยังสะดุ้ง มันคือเราเหรอเนี่ย เสียงเหมือนหมีขั้วโลกเป็นไข้!

เคล็ดลับที่ได้มา :

  • ถ่ายวิดีโอตัวเองพูดใกล้ๆ เพื่อดูการขยับปาก
  • เสียงที่ไทยไม่มีอย่าง “v” (วี) ต้องกัดลิ้นฟันล่างไม่ให้ปะทะกัน
  • ยืนหน้ากระจกฝึกสัก 5 นาทีทุกวัน

ขั้นสอง : เอาอันนี้ไปใช้เลย -> สำเนียงเพลงโปรด

เลือกเพลง Ed Sheeran เพราะฟังง่าย เปิดเนื้อร้อง + ฟังพร้อมดูปากนักร้อง พยายามล้อตามให้เป๊ะ ปรากฏว่าเบลอไปหมด! จนเพื่อนร่วมห้องทนไม่ไหวตะโกนมา “เลิกหอนได้ยัง!” เผลอๆ เพื่อนจะย้ายออกก่อนที่สำเนียงจะดีซะอีก 555

สิ่งที่พลาดแล้วแก้ไข :

  • ไม่กระโดดไปฝึกเพลงเร็วแบบ Rap God (พลาดขั้นสุด)
  • ปรับความเร็วเป็น 0.75x ก่อนค่อยเพิ่ม
  • เปิดซับไตเติ้ลพร้อมเน้นคำที่เค้าเชื่อมเสียง

ขั้นสาม : โดนแฟนเก่าช่วยโดยไม่รู้ตัว

นัดเจอแฟนเก่าคนอเมริกัน (เป็นเพื่อนกันดีนะ) พอเจอหน้าก็ดันนึกเทคนิคที่เพิ่งฝึกมา เลยยัดเยียดให้เค้าช่วยแก้สำเนียงตอนสั่งกาแฟ บังคับให้เค้าชี้จุดผิดทุกประโยค ประมาณครึ่งชม. หน้าเพื่อนเริ่มบิดแล้วพูดขึ้นว่า “When you say ‘milk’, it sounds like you’re choking…” โอ้แม่! นี่มันได้ข้อมูลฟรี!

เลยยัดแผนการฝึกเพิ่ม :

  1. หาหนังฝรั่งที่ชอบเปิดซาวด์แทร็ก
  2. พูดตามตัวละครตอนนั่งรถเมล์ (คนข้างลุกหนีไปสองที่แล้ว)
  3. หยิบสมุดจดศัพท์+สัญลักษณ์เสียงส่วนตัว เช่น coffee = คอฟ-ฟี่ (ไม่ใช่กอฟฟี่!)

สองอาทิตย์ที่ทรมานแต่ได้ผล

เริ่มสังเกตว่าพนักงานสตาร์บัคไม่ถามซ้ำเวลาสั่ง caramel macchiato แถมเพื่อนบอกว่าเสียง R ไม่เหมือนมดแล่นในปากแล้ว! ทวนสิ่งที่ทำไป :

  • ใช้เสียงในชีวิตจริงวันละ 3 ครั้ง (ถามทาง / ซื้อของ / ชวนเพื่อนกินข้าว)
  • ฟังพอดแคสต์แค่ 10 นาทีแต่จด 3 คำที่ฝรั่งพูดไม่เหมือนเรา
  • ถ้าพูดผิดให้ซ้ำ 3 รอบทันทีจนปากจำเอง

ผ่านมา 2 เดือนตอนนี้ กล้าคุยงานกับลูกค้าต่างชาติโดยไม่ง้อล่าม เคยตื่นเต้นจนพูด “I need a rubber” แทน eraser (เพื่อนฝรั่งเขียวหน้าหัวเราะ) แต่เดี๋ยวนี้สำเนียงไม่ทำให้คนฟังงงแล้ว แค่ต้องยอมอายตอนฝึกนิดหน่อยเท่านั้นเอง!