อยากเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรีที่บ้านได้จริงรึเปล่า อยากเก่งต้องทำตามนี้

0
4

จริงๆ แล้วคืออยากเก่งภาษาอังกฤษมานานแล้วอะ แต่ไม่มีตังค์ไปเรียนสถาบันแพงๆ เลยลองหาวิธีเรียนฟรีออนไลน์ดู เขาว่ากันว่าทำได้ เราเองก็ไม่ค่อยเชื่อแต่ลองไปเรื่อยๆ ครบ 6 เดือน เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงให้ฟัง

เริ่มยังไงก็ไม่รู้

เปิดกูเกิ้ลพิมพ์หา “เรียนภาษาอังกฤษฟรี” เจอเว็บเพียบ แต่เว็บไทยๆ ส่วนใหญ่ดันมีปุ่มสมัครสมาชิกแล้วให้ใส่บัตรเครดิตตลอด! โคตรหลอก ตัดใจเปลี่ยนไปเสิร์ชคำว่า “free english learning” ไปเรื่อยเปื่อยจนเหนื่อย เข้าเว็บฝรั่งชื่อดังนึง เข้าใจเลยว่าทำไมคนท้อ…ข้อมูลแน่นเกินจนเลือกไม่ถูก เนื้อหากระจายไปหมด อ่านแล้วงงเหมือนเข้าไปในป่าตอนกลางคืน

ลองผิดลองถูกมั่วไปหมด

อาทิตย์แรกมัวแต่หาที่เรียนจนไม่ได้เรียนอะไรเลยสักคำ สุดท้ายเริ่มต้นใหม่แบบพื้นๆ ง่ายๆ ก่อน:

  • เปลี่ยนภาษาในมือถือ เป็นภาษาอังกฤษทั้งระบบ ตอนแรกจะบ้าตาย หายังไงก็ไม่เจอเมนู แทบอยากขว้างมือถือทิ้ง แต่ทำไปซักพักก็ชินมือชินตา
  • ดูยูทูปช่องฝรั่ง เลือกแบบที่พูดช้าๆ แล้วเอามือปิดซับไทเติลไว้ บังคับตัวเองฟังแบบไม่มีเกราะคุ้มกัน ฟังครั้งแรกรู้สึกหูแตกเลยแกรรร มันเร็วเวอร์!
  • โหลดแอปเรียนภาษาตัวฟรี ที่มีแบบฝึกหัดบ้าๆ มาลองเล่น มันชอบให้เราพูดตาม ฝึกแรกๆ เสียงตัวเองแบบหมาบ้า เวลาพูดเข้าคร่อมไมค์ เจ้าของแอปคงได้ขำทุกวัน

ต้องทำทุกวันให้เหมือนแปรฟัน

รู้ตัวเองขี้เกียจ เลยต้องเซ็ตเวลาเพียวๆ:

  • ก่อนนอน 15 นาที ไม่ได้ดูยูทูป แต่เลือกฟังข่าวภาษาอังกฤษสั้นๆ จากแฟลตฟอร์มดัง ฟังจนหลับคาหูฟังไปหลายรอบ
  • เช้าๆ ตอนอาบน้ำ แทนที่จะร้องเพลงสตริงมั่วๆ ก็ลองเปิดเพลงฝรั่งแล้วตะโกนตอบตามแบบไม่สนสำเนียง ได้ออกเสียงแบบไม่ต้องอายใครก็คราวนี้แหละ
  • ตอนยืนรอรถเมล์ เล่นเกมทายคำศัพท์ในแอป ไม่สนคนมอง ทำเหมือนเรากำลังเล่นเกมปกติ

ท้อก็มี เจอทางตันก็หลายครั้ง

ไม่รู้มาก่อนว่าเรียนเองมันทรมานกว่าไปเรียนเซนเตอร์ตั้งเยอะ! ไวยากรณ์ก็งง ตะกี้ยังเข้าใจว่าตัวเองเริ่มเก่ง พอเจอเจ้าของภาษาจริงตอนนัดติวภาษาฟรีกับฝรั่งทางแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนภาษา…ถึงกับอึ้งเลยอะ ฟังไม่ออกเลยสักประโยค! เหมือนโดนถังน้ำเย็นสาดใส่หน้า มันขอบอกตรงๆ ว่าอยากจะล้มเลิกการเรียนฟรีออนไลน์ตอนนั้นแหละ โคตรเสียศูนย์

เปลี่ยนเกม เปลี่ยนวิธีคิด

เลิกโทษวิธีฟรีแล้วเริ่มโทษตัวเอง มันคือเราพยายามน้อยไปเองนั่นแหละ สุดท้ายก็ปรับใหม่:

  • ไม่กดดันเรื่องความเร็ว กลับไปฟังยูทูปที่เคยดู แต่คราวนี้ลดความเร็ววิดีโอลงเป็น 0.75x ฟังจับคำแบบช้าๆ ไปก่อนค่อยเพิ่มสปีดทีหลัง
  • พยายามพูดกับตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ตอนอยู่คนเดียวนี่แหละ ได้ทั้งเรื่อง ลืมศัพท์ก็ห้ามเปิดดิกก่อน ให้พยายามอธิบายเป็นภาษาอื่นไปก่อน ช่วงแรกเหมือนคนบ่นคนเดียว พูดเบลอๆ แต่พอลองมาซัก 2 สัปดาห์ มันเริ่มลื่น
  • ดูการ์ตูนเด็กฝรั่งบนยูทูป จริงๆ นะ เรื่องง่ายๆ ด้วยซ้ำ แรกๆ อายตัวเองมากๆ เสียงการ์ตูนสูงแอ๊บแบ๊ว แต่มันเข้าใจได้ง่าย ค่อยๆ ฟังแล้วค่อยย้ายไปดูพอดแคสต์ของวัยรุ่นที่ชอบ

ผลลัพธ์มันมาแบบค่อยเป็นค่อยไป

ไม่มีปาฏิหาริย์ 6 เดือนผ่านไปรู้สึกแค่ได้ศักบาตรเพิ่มหน่อย:

  • ตอนดูเน็ตฟลิกซ์ บางทีไม่ดูซับไทยเลยก็พอจับใจความเรื่องได้ เป็นเหมือนได้เปิดโลกอีกใบ
  • พูดตามเพลงได้เป็นท่อนๆ ไม่ต้องมานั่งดูเนื้อร้องตลอดเหมือนก่อน
  • กล้าตอบแชทกับเพื่อนต่างชาติ แม้จะใช้แกรมม่าผิดบ้างแต่เค้าเข้าใจที่เราสื่อสาร แค่แบบนี้ก็โคตรสุขใจแล้ว

สรุปแล้วมันเวิร์คมั้ย?

ฟรี 100% เลยอะไรมั้ย? บอกตรงๆ มันทำได้แต่ต้องขยันให้โคตรกว่าการไปเรียนปกติ ไม่มีครูคอยจี้คอยตีกรอบให้แบบเซนเตอร์ นี่แหละจุดพลาดของหลายๆ คนที่เลิกล้มกลางคัน วิธีฟรีมันไม่มีสูตรสำเร็จ ต้องลองแล้วเอาเฉพาะส่วนที่ใช่กับเราเท่านั้น แต่อย่างน้อยวันนี้ก็พิสูจน์แล้วว่า ถ้าอยากเก่งยังไงก็ต้องลงทุนเวลา ขาดไม่ได้แม้แต่วันเดียว โคตรคุ้ม ดีกว่าอยู่บ้านมัวคิดว่าไม่มีตังค์เรียนไม่ได้เริ่มอะไรเลย

สุดท้ายก็ทิ้งท้ายไว้แบบนี้…มันเรียนฟรีได้จริง แต่ทุกนาทีที่เราเรียนผ่านไปนั่นคือเราแลกมาด้วย “เวลาที่ไม่มีวันหวนคืน” นะ เวลาในไทม์ไลน์เราเปรียบเสมือนหัวตะเกียงที่ไหม้อยู่ตลอด เลือกจะเรียนอะไรไม่เรียนอะไรก็คิดให้ดี! 😅