อังกฤษพื้นฐานพูดผิดบ่อยตรงไหน แก้ไข3จุดนี้ให้เป๊ะ!

0
2

วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์แก้ปัญหาพื้นฐานภาษาอังกฤษที่คนไทยผิดกันบ่อยมาก มันเรื่องการออกเสียงนี่แหละ ตัวเราเองก็เคยติดกับดักพวกนี้ไม่รู้กี่รอบ!

จุดเริ่มต้นที่ทำให้ต้องมาเซ้เว่นเรื่องนี้

อยู่ดีๆ ก็เซ็งตัวเองตอนไปสั่งกาแฟที่ร้านฝรั่ง พอพูดคำว่า “milk” (นม) เจ้าของร้านทำหน้าวนเวียน ไม่เข้าใจ! เราเองแน่ใจว่าพูดถูกนะ แต่เค้ายังถามกลับว่า “silk?” (ผ้าไหม) เห้ย… อารมณ์แบบ มึงล้อกูเล่นปะเนี่ย พอกลับมาบ้านเลยเอะใจสุดๆ เลยเปิดเสียงที่อัดไว้ฟังซ้ำ อ้าววะ! ตอนสั่งเนี่ยเราพูดว่า “มิ้ว” แทนที่จะเป็น “มิลค์” มันหายไปตัว ‘L’ เต็มๆ!

เลยตัดสินใจ เอาให้รู้กันไปเลย ว่าตัวไหนที่เราคนไทยชอบพลาดกัน วิธีแก้ง่ายๆ เลย:

จุดที่ 1 : เสียงตัว L เวลาตัวสะกดต้องออกให้ชัด

  • ปัญหาจริงๆ : เวลาเจอคำว่า milk, help, world พวกนี้ มันชอบหลุดไปตัว L เป็นเสียง ว. แบบ “มิ้ว”,”เฮ้ว”,”เวิด” เออ เราเองก็เป็นนั่นแหละ!
  • วิธีแก้ระดับพื้นฐาน : แกะมันเป็นท่อนๆ ช้าๆ เอากล้องโทรศัพท์มาจ่อปากซะเลย อัดตัวเองพูดแบบเน้นๆ “มิล-คึ” “เฮล-ปึ” “เวิร์ล-ดึ” พูดไปก็ดูปากตัวเองไปว่า ปลายลิ้นแตะเพดานปากตรงหลังฟันหน้าให้เห็นชัดๆ พออัดฟังซ้ำ พบว่ายิ่งเสียง “ลึ” มันค่อยๆ ออกมา จะทำให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้น!

จุดที่ 2 : เสียง TH ที่ไม่ใช่ ท. ไม่ใช่ ด.

  • ปัญหาจริงๆ : คำพวก think, thought, they เรามักแปลงร่างมันเป็น “ทิงค์” (เหมือนเรียกชื่อคน), “ท็อท” (แบบทอด), “เดย์” (ชื่อผู้ชาย) ซึ่งเค้าเข้าใจว่าเราพูดอีกคำเลย!
  • วิธีแก้ฉบับคนขี้เกียจ : เราใช้วิธีง่ายๆ เอามือมาจี้ที่คอเราเบาๆ แล้วลองเปรียบเทียบ เสียง TH แบบไม่มีเสียง (think) กับ TH แบบมีเสียง (they) สังเกตว่า ถ้าไม่มีเสียง คอจะไม่สั่น แต่ออกเสียงลมผ่านลิ้นที่ยื่นระหว่างฟัน ส่วนมีเสียง คอจะสั่นนิดๆ แรกๆ ทำหน้าเบ้เอานิดนึง แต่เดี๋ยวก็ชิน พอฝึกบ่อยปุ๊บ จะได้คำว่า thin ไม่กลายเป็น tin อีก!

จุดที่ 3 : R ตัวสะกดต้องห่อปาก มันต่างจากตัว L!

  • ปัญหาจริงๆ : จุดนี้แหละโคตรฮา คือเราเคยบอกเพื่อนว่า “I parked the car.” (เราไปจอดรถมา) ปรากฏว่าเพื่อนฟังเป็น “I pocked the cow!” (เราแย่งวัวมาซะงั้น) มันช่างคนละเรื่องสิ้นดี 555+
  • ฝึกแบบไม่ต้องพึ่งอาจารย์ : เราหยิบกระจกเงามา 1 บานเลย เอาไว้ดูรูปปากตอนออกเสียง R คำว่า car, park, water ทุกครั้งที่เรา R ปากมันจะห่อเหมือนจู๊ดๆ ส่วน L มันปลายลิ้นจะแตะบน (อ้าว! มันคนละท่าพ่อกูละ) เลยฝึกบังคับปากตัวเองให้ห่อบ่อยๆ พูด “คารฺ” ไม่ใช่ “คา” หรือ “เคาล์”

สรุปผลลัพธ์ เราไปเลี้ยวลดแล้วมาเจออะไรบ้าง

พอลงมือแก้จริงๆ ทั้ง 3 จุดเนี่ย เจอผลคือ:

  • สั่งกาแฟ: พูดว่า “latte with milk, please.” รอบนี้เค้าไม่งงแล้ว แถมยิ้มให้ด้วย เพราะเราไม่ออกเสียง “มิ้ว” อีกแล้ว!
  • นัดฝรั่ง: เพื่อนฝรั่งชมว่าออกเสียง they, there ฟังรู้เรื่องมากๆ ต่างจากก่อนซึ่งเค้าคิดว่าเราเรียกคนอื่นชื่อ “เดย์”
  • เวลาพูดอังกฤษกับพนักงานเซเว่น (555): เค้าสื่อสารกับเราง่ายขึ้น บางคนรู้สึกแบบ… “เอ๊ะ แต่ก่อนคุยกับพี่ไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนี้พี่พูดเข้าใจง่ายจังเลย”

ใจความสำคัญ : อันนี้ไม่ต้องไปเสียเงินเรียนหลักแสนหรอก แค่จับจุด ตัวสะกด L, R, TH ให้ได้ ฝึกเป็นนิสัย พูดอะไรช้าๆ เดี๋ยวมันเป๊ะขึ้นมาเอง! ลองดูนะ มันเวิร์คจริง!