การเริ่มต้นแบบคนไม่มีพื้นฐาน
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนั่งดูกีฬาทางโทรศัพท์มือถือแล้วเจอปุ่ม “Watch Live” แถมพวกรีวิวก็ใช้ศัพท์ยากเต็มไปหมด รู้สึกตัวว่าอ่ะ…นี่กูอ่านไม่ออกซักตัว ทั้งๆ ที่จบมหาลัยมาแล้วนี่นะ พอคิดถึงสมัยเรียนก็เลยรู้สึกละอายแทนตัวเอง ตอนเรียนมัวแต่ลอกข้อสอบเพื่อนตลอด ไม่เคยตั้งใจเรียนจริงจัง เลยตัดสินใจว่าเอาจริงละ
5 ทริคที่ลองแล้วได้ผล
- ทริคแรก: ไปหาหนังสือเด็กอนุบาลมาเล่มนึงน่ะ! “The Cat in the Hat” อ่านแล้วสะดุดนึกว่าเออว่ะ เราไม่เคยอ่านเสียงดังๆ เลยนะ เลยลุกขึ้นยืนอ่านแบบตะโกนในห้องจนแมวข้างบ้านหมั่นไส้
- ทริคสอง: แปะคำศัพท์ทั่วห้องน้ำ! ปกติขี้เกียจจดคำศัพท์อยู่แล้ว พอไปเจอคำว่า “refrigerator” ในยูทูบช่วงทำกับข้าว ก็เลยฉีกกระดาษ A4 ทึ้งๆ เขียนตัวโตเตะตาแล้วเทปแปะไว้บนตู้เย็น พอตื่นเช้ามาก็ไปแปะอีกรอบที่กระจกแจกัน แถมเอาไปยื่นให้พี่保安大叔ดูถามว่า“พี่ครับ อ่านว่า รี-ฟริ-เจ-เร-เตอร์ ถูกไหมครับ?”
- ทริคสาม: เอาภาษาอังกฤษลงในชีวิตประจำวันเลย! เปลี่ยนมือถือเป็นภาษาอังกฤษซะ มึนเลยตอนหาปุ่มตั้งค่าไม่เจอ แต่สุดท้ายก็รู้สึกคุ้นๆ ว่าคำว่า “Settings” มันน่าจะอยู่ตรงไหน พอเห็นบ่อยๆ ก็เริ่มซึมซับ ตอนพิมพ์แชทก็เริ่มเดาสะกดโดยไม่เปิดดิก
- ทริคสี่: หาเพลงโปรดมาฟังแบบอ่านเนื้อไปด้วย! เลือกเพลง “Count on Me” เพราะฟังง่ายมาก เปิดซ้ำๆ รอบที่สิบจนหูแทบหงาย แล้วก็เอากระดาษมาจดๆ ลองร้องตาม ตอนร้องคำว่า “lend a hand” ออกเสียงผิดจนคู่อาศัยเคาะผนังท้วง
- ทริคห้า: ดูการ์ตูนแบบพากย์ไทยซับอังกฤษ! ลองดูดอราเอมอน ตอนหนึ่งทั้งล้อเล่นกับเพื่อนแล้วคันตามาก ยากจริงนะ แต่พอฟังพากย์ไทยแล้วมาดูซับ ก็ช่วยให้เข้าใจบริบทมากขึ้น เช่นเดียวกับตอนเห็นคำว่า “tomorrow” ในซับ ถึงได้ตะโกนว่า อ๋อ! “พรุ่งนี้” นี่เอง!
ผลลัพธ์ที่ได้
พอผ่านมาอาทิตย์นึง ตอนนี้พอเปิดTwitter เจอTweet เขียนว่า “The weather is lovely today!” ถึงจะยังแปลบางคำไม่ครบ แต่พอเข้าใจว่ามันน่าจะเกี่ยวกับ“อากาศดีวันนี้” ตอนนั้นยิ้มออกมาไม่รู้ตัวเลยอะ มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่เริ่มยากหน่อยเอง!
สรุปสั้นๆ : อย่ากลัวความโง่ตอนเริ่มต้น ใครจะไปรู้ว่าการดูกระทิงแปะบนตู้เย็นหรือตะโกนตามหนังสือนิทาน มันจะพาเราไปเข้าใจภาษาใหม่ได้จริงๆ! แล้วอย่าลืม ทำทุกวันนะ…แม้แต่พี่保安大叔ยังช่วยเช็คการออกเสียงให้เลย