เกี่ยวกับ PalFish เรียนภาษาอังกฤษสนุกไหม? เด็กๆ ชอบเรียนไม่เบื่อเลย

0
7

เอาล่ะครับ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ตรงที่ผมไปลองงมๆ กับแอป PalFish มา จริงๆ ก็ไม่ได้กะจะมาสอนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวนะ แค่อยากเล่าให้ฟังว่าไปเจออะไรมาบ้าง เผื่อใครสนใจจะได้เห็นภาพ

จุดเริ่มต้นของการลอง PalFish

คือเรื่องของเรื่องเนี่ย มันเริ่มจากช่วงที่ผมรู้สึกว่าอยากหาอะไรทำเสริม แบบว่างานประจำมันก็มีแหละ แต่บางทีมันก็มีเวลาว่างๆ แล้วก็เห็นเพื่อนๆ ในโซเชียลบางคนเค้าพูดถึงแอปสอนภาษาออนไลน์กัน ผมก็เลยเอ๊ะ มันคืออะไรวะ น่าสนใจดีเหมือนกัน เลยเริ่มไปลองค้นๆ ดู ก็ไปเจอชื่อ PalFish นี่แหละครับ เห็นว่ามันเป็นแพลตฟอร์มที่ให้เราสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆ ชาวจีนได้ ผมก็แบบ อะ ลองดูซักตั้ง ไม่เสียหาย

ขั้นตอนการสมัครและเตรียมตัว

พอตัดสินใจแล้ว ผมก็เริ่มจากดาวน์โหลดแอปมาก่อนเลยครับ หน้าตามันก็ดูใช้งานง่ายดีนะ ตอนแรกก็งงๆ นิดหน่อยว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ก็ค่อยๆ กดๆ จิ้มๆ ไปเรื่อย ขั้นตอนการสมัครนี่ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากครับ เค้าก็จะให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไป แล้วก็จะมีให้อัปโหลดพวกเอกสารยืนยันตัวตนนิดหน่อย แล้วก็ที่สำคัญเลยคือต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ตอนอัดวิดีโอนี่แอบเขินเหมือนกันนะ ฮ่าๆ พูดไปก็ติดๆ ขัดๆ ไปบ้าง แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด

หลังจากส่งข้อมูลทุกอย่างไปแล้ว ก็ต้องรอการอนุมัติจากทางแอปเค้าครับ ระหว่างรอนี่ผมก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ นะ ผมก็เข้าไปดูโปรไฟล์ของครูคนอื่นๆ ที่เค้าสอนอยู่แล้ว ว่าเค้าทำกันยังไง แต่งตัวยังไง พูดจาแบบไหน พยายามศึกษาแนวทางไว้ก่อน พอถึงคิวเราจะได้ไม่เก้ๆ กังๆ มาก

ประสบการณ์ตอนเริ่มสอนจริง

พอได้รับการอนุมัติปุ๊บ ผมก็ตั้งค่าโปรไฟล์ของตัวเองให้เรียบร้อย ใส่รูป ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์ (ถึงแม้จะไม่ค่อยมี ฮ่าๆ) แล้วก็ตั้งเรทราคา ช่วงแรกๆ นี่ก็ยังไม่มีนักเรียนติดต่อมาทันทีนะครับ ผมก็ต้องพยายามออนไลน์บ่อยๆ ทำให้โปรไฟล์เรามันแอคทีฟอยู่เสมอ

แล้ววันนึงก็มีแจ้งเตือนเข้ามา! มีผู้ปกครองติดต่อมาจองคลาสเรียนครั้งแรก ตื่นเต้นมากครับ ตอนสอนครั้งแรกนี่จำได้เลยว่าประหม่าสุดๆ พูดผิดพูดถูกบ้าง แต่เด็กๆ ก็น่ารักดีครับ เค้าก็พยายามเข้าใจเรา เราก็พยายามเข้าใจเค้า การสอนส่วนใหญ่ก็จะเป็นไปตามหลักสูตรที่ทาง PalFish เค้ามีให้ ซึ่งก็สะดวกดีเหมือนกัน ไม่ต้องเตรียมเนื้อหาเองทั้งหมด

สิ่งที่ผมเจอระหว่างสอนก็มีหลากหลายครับ

  • ความแตกต่างทางวัฒนธรรมและภาษา: อันนี้แน่นอนอยู่แล้ว บางทีมุขที่เราเล่นไป เด็กเค้าก็ไม่เข้าใจ หรือบางทีสำเนียงเค้าเราก็ต้องตั้งใจฟังมากๆ
  • ความคาดหวังของผู้ปกครอง: ผู้ปกครองบางคนก็คาดหวังสูง อยากให้ลูกพูดได้เร็วๆ เราก็ต้องพยายามอธิบายและทำให้เต็มที่
  • ระบบของแอป: บางทีก็มีเอ๋อๆ บ้างเล็กน้อยครับ แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเค มีฟีเจอร์ช่วยสอนเยอะดี
  • การแข่งขัน: ครูในระบบเยอะมากครับ เราก็ต้องพยายามสร้างจุดเด่นให้ตัวเอง

ผมลองทำอยู่พักใหญ่ๆ เลยครับ ก็มีทั้งช่วงที่นักเรียนเยอะ นักเรียนน้อยปะปนกันไป มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ทำให้เราได้ฝึกภาษาของตัวเองไปด้วย แล้วก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ (ที่เป็นครูเหมือนกัน) จากทั่วโลกเลย

บทสรุปจากการลองผิดลองถูก

สุดท้ายแล้ว สำหรับผม PalFish มันก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการหารายได้เสริม แล้วก็ได้ฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษไปในตัว มันอาจจะไม่ได้ทำให้รวยเป็นกอบเป็นกำในทันทีนะครับ มันต้องอาศัยความสม่ำเสมอ ความอดทน แล้วก็ต้องพยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ใครที่คิดจะลองทำ ผมก็แนะนำว่าให้เตรียมตัวให้พร้อม ทั้งเรื่องภาษา เรื่องอุปกรณ์ (อินเทอร์เน็ตต้องดีนะ) แล้วก็เรื่องใจครับ ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ เรียนรู้ไป

นี่ก็เป็นประสบการณ์คร่าวๆ ที่ผมไปลอง PalFish มานะครับ ไม่ได้มีเทคนิคอะไรซับซ้อน เป็นการเล่าจากสิ่งที่เจอมาจริงๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังสนใจอยู่นะครับผม!