เรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวกับชาวต่างชาติสำหรับคนทำงาน หาเวลายังไงให้ง่าย

0
6

พอดีเจอคำถามในกลุ่มคนทำงานหลายทีเลยว่า “จะหาวันเรียนภาษาอังกฤษยังไงดีนะ” เรื่องนี้เราลองผิดลองถูกมาพอสมควร เลยมาแชร์เป็นขั้นเป็นตอนให้ฟังเลยละกัน

เริ่มต้นจากความโคตรท้อ

แรกสุดเลยคือทำอะไรไม่ถูกเลย เพราะงานก็เยอะ เวลาไม่ตรงกับติวเตอร์ด้วยซ้ำ ปวดหัวมาก ตอนแรกคิดว่าเลิกเรียนดีกว่า แต่ก็เกลียดตัวเองเวลาเจอเมลฝรั่งแล้วอ่านไม่ออก ต้องกด Google Translate ตลอด ตัดสินใจใหม่ว่าจะหาทางให้ได้

ตัวช่วยแรกคือ “แกะเวลาตาย”

เราลองนั่งจดเวลาในหนึ่งวันดู ปรากฏว่าเจอช่องว่างอยู่สองจุดใหญ่ๆ:

  • ช่วงพักเที่ยง: กินข้าวเสร็จเหลือเวลาอีก 20-25 นาที ที่ผ่านมาเอาไปเลื่อน TikTok ไร้ประโยชน์
  • ตอนเย็นหลังเลิกงาน: นั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านประมาณ 40 นาที แทนที่จะกดมือถือลอยๆ

เลยคิดว่า เอาเวลาพักเที่ยงมาเรียนสดกับครูต่างชาติ ส่วนตอนเย็นทบทวนฟังพอดแคสต์ เก็บคำศัพท์ที่ครูสอนไว้ตอนเที่ยง

ปัญหาใหญ่คือเวลาไม่ตรงกับครูฝรั่ง!

เคยลองนัดครูชาวออสซี่เรียนตอนพักเที่ยงบ้านเรา (เที่ยงวันไทย = บ่ายสามของเขา) แต่ครูส่วนใหญ่ติดสอนเด็กๆ ที่โรงเรียน เขาไม่ว่าง! เลยเปลี่ยนแผนหา ครูฟิลิปปินส์ แทน เพราะ:

  • เวลาไทยเที่ยงตรงกับเที่ยงของเขาเป๊ะ
  • ค่าเรียนถูกกว่า คิดชั่วโมงละ 250 บาทเอง บางแอปคุยครึ่งชั่วโมงก็จ่ายได้
  • สำเนียงฟังง่าย ไม่เหมือนฝรั่งแท้ๆ แต่พอเอาไปใช้งานจริงกับฝรั่งชาติอื่นได้

ตั้งกฎเหล็กกับตัวเอง

รู้ตัวว่าเป็นคนขี้เกียจ เลยต้องมีเงื่อนไขบังคับตัวเอง:

  • 📌 เรียนกลางวันทุกวันจันทร์กับพฤหัส: ตอนนี้พักเที่ยงกลายเป็น “คาบวิชา” ไปแล้ว ห้ามนัดเพื่อนกินข้าวสองวันนี้เด็ดขาด
  • 📌 ตั้งการแจ้งเตือนบนมือถือไว้สองรอบ: รอบแรกเตือนก่อนเรียน 10 นาทีให้ไปรอคอล รอบสองเตือนให้เปิดพอดแคสต์ตอนนั่งรถไฟ
  • 📌 แบ่งการบ้าน: หลังเรียนเสร็จครูชอบให้การบ้านมา (เช่นให้เขียนเมลสั้นๆ) เราจะทิ้งไว้ทำตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นก่อนเข้าประชุม ตื่นมาก็เริ่มทำงานอังกฤษก่อนเข้าไฟล์งานจริง

เจอปัญหาที่คาดไม่ถึง!

อาทิตย์แรกนี่สนุกดี รู้สึกโปรดักทีฟเว่อร์ แต่พอเข้าเดือนที่สอง… ความเมื่อยล้ามาเยือน! บางวันเครียดจากงานมาก ไม่อยากแม้แต่จะฟังเสียงคน! เลยปรึกษาครูว่าขอเรียนแบบไม่เปิดกล้องได้มั้ย บางครั้งพอสอนผ่านข้อความในแชทบ้าง ครูเขาเข้าใจมากๆ บอกว่า “You pay, you say!” คือเราจ่ายเงิน เรากำหนดกติกาได้นั่นเอง

สรุปแล้วได้อะไรบ้าง?

ลองสลับเวลาชีวิตแบบนี้มาเกือบสี่เดือนแล้ว สิ่งที่ได้ชัดๆ เลย:

  • 🧠 เวลาไม่ได้หายไป: พักเที่ยง 25 นาทีไม่ใช่แค่กินข้าวทันไถสเตตัสแล้วหลับ เต็มที่จริงๆ
  • 🗣️ ลืมความอาย: ตอนแรกว่าแกรมมาร์ผิดๆถูกๆ ไม่อยากคุย ตอนนี้พูดไปเถอะ เขาแก้ให้เป็นเรื่องปกติ
  • 📈 เห็นพัฒนาการชัด: ลองสังเกตตัวเองสิว่า พอคุยกับฝรั่งในออฟฟิศแล้วหูฟังได้ชัดขึ้น หรือไม่ต้องใช้ Subtitle หนังที่ดูทุกวันเสาร์

สาระสำคัญจริงๆ คือเราต้องไม่ฝืนธรรมชาติตัวเอง อย่าไปตารางเรียนเป๊ะเหมือนเด็กมหาลัย ถ้าวันไหนโหลดงานมาก ก็เรียนสั้นลง หรือเปลี่ยนเป็นฝึกฟังเฉยๆ เอาที่เราสบายใจแล้วสม่ำเสมอที่สุด