พูดตามตรงว่าก่อนหน้านี้ก็พยายามหัดภาษาอังกฤษธุรกิจมาหลายปีแต่ไม่เคยสำเร็จสักที จนพี่ที่ออฟฟิศเห็นท่าไม่ดีเลยกระซิบบอกว่า “เว้ย ถ้าอยากได้ผลเร็ว ต้องลงมือแบบนี้…” เลยเอามาแชร์ให้ฟังตามที่ลองมาเอง
สมัยแรกเริ่มนี่โง่สุดๆ
ตอนแรกก็นึกว่าแค่ดูหนังฝรั่ง+ท่องศัพท์ทั่วไปก็พอ สรุปเอาไปใช้ในที่ทำงานไม่ได้เลย เวลานัดลูกค้าเขียนอีเมลทีไรเป็นตาย ส่งไปทีไรลูกค้าตอบกลับมาว่า “Could you clarify what you mean?” ทุกที สภาพเหมือนรถติดสิบแถว ตาลายไปหมด
ผิดพลาดแบบโง่ๆ:
- ใช้แอพสอนภาษาอังกฤษทั่วๆไปไม่เน้นธุรกิจ
- ท่องศัพท์แบบไม่แยกหมวด พอเจอคำว่า “invoice” ในอีเมลจริงดันนึกไม่ออกว่าใบเสร็จ
- ไม่เคยฝึกเขียนจริง แค่กดลิ้งค์เรียนบนเว็บฟรีแบบงูๆปลาๆ
เปลี่ยนมากินข้าวรายวันแบบจัดเต็ม
ตัดสินใจแบ่งเวลาทุกวันเลิกงานเลย ลงทุนทำ2อย่างแบบบ้าคลั่ง:
ขั้นตอนที่1: หาหมวดคำเฉพาะตัวตาย
- เปิดอีเมลเก่าๆในออฟฟิศที่เคยส่งไปหาเจ้านายกับลูกค้า
- จดคำศัพท์ซ้ำๆที่เจอบ่อย เช่น follow up, milestone, deliverables
- ทำเป็นสมุดคำศัพท์เฉพาะทางที่มีแต่เรื่องงานเราจริงๆ
ยกตัวอย่างง่ายๆ วันนึงเจอลูกค้าถามว่า “Can we expedite the process?” นี่กดดิกชันนารีทีเดียวท้องขึ้นทันที คำว่า expedite = เร่งความเร็ว!
ขั้นตอนที่2: เอาศัพท์มาแปะทั่วห้อง
- ติดโพสอิทคำว่า “negotiation” ที่โต๊ะประชุม
- เขียนประโยคสำเร็จรูปติดหน้ากระจกบร bathroom เช่น “I’ll keep you posted”
- เปลี่ยนเสียงเตือนมือถือเป็น “Please proceed to the next step”
อาศัยเพื่อนร่วมงานเป็นอาจารย์ฟรี!
เจ๋งสุดคือเราไม่ต้องลงเรียนคอร์สแพงๆ แค่ทำ2อย่าง:
- ขอให้คนฝรั่งในออฟฟิศช่วยเช็คอีเมลให้ก่อนส่ง
- เวลามีการpresentงานแล้วฝรั่งพูดศัพท์แปลกๆ ดิสรูทเอาเสียงมากด pause บนมือถือแล้วถามทันที
จำได้วันนึงเสนอราคาลูกค้าเพื่อนบอกว่า “Your pricing structure isn’t scalable.” นี่ดันไปนึกว่าscale=ตาชั่ง ผิดหมด! ความหมายจริงๆคือ “ราคาคุณปรับเปลี่ยนตามขนาดธุรกิจไม่ได้” นี่แหละได้คำนี้ติดสมองไปอีก10ปี
สรุปเคล็ดลับที่ได้ผลแรงที่สุด:
- ขุดศัพท์จากงานตัวเองในอดีต ไม่ต้องท่องจากในตำรา
- สร้างสิ่งแวดล้อมให้ต้องเจอคำธุรกิจตลอดเวลา
- อาศัยมนุษย์ในออฟฟิศนี่แหละตัวช่วยชั้นดี
หลังจากทำมา5เดือน น้องใหม่ในออฟฟิศยังหันมาถามว่า “พี่ไปติวที่ไหนมา?” ทั้งๆที่เราไม่ได้จ่ายค่าเรียนสักบาท! ตอนนี้พอประชุมกับทีมต่างชาติยังช่วยสแตนด์อินให้เจ้านายได้เลย… ลองทำดูเถอะนอกจากฟรีแล้วยังปังกว่าคอร์สออนไลน์แพงๆอีกนะเว้ย!