วันนี้มาแชร์ประสบการณ์ลงคอร์สอังกฤษเอาตัวรอดเวลาไปเรียนเมืองนอกให้ฟังเลย หลายคนคงมึนเหมือนกันว่าคอร์สไหนเวิร์คสุด ปีล่าสุดเราลองมาหมดแล้ว
ขั้นแรก: เดินเข้าร้านหนังสือยังงงไปอีก
เริ่มจากไปยืนโง่ๆหน้าแผงหนังสือสอนภาษาอังกฤษในศูนย์หนังสือชื่อดัง เข้าไปเห็นโหลดหนังสือกองเท่าภูเขาอ่านแล้วตาลาย ตอนนั้นแบบ…เห้ยไหวเหรอเนี่ย แต่บังเอิญพี่ขายหน้านิ่งทักมา เขาบอกให้ลองทำแบบทดสอบวัดระดับก่อน
กดมือถือหาข้อมูลจนตาลาย
เว็บบอกว่า A2 แต่ก็ไม่แน่ใจ
ขั้นเลือกคอร์ส: เปรียบเทียบแบบเบลอๆ
เอาแบบเด็กกินเหล้าลองผับทุกที่ นั่งจดคอร์สเปรียบเทียบกัน 4 ที่:
- คอร์สออนไลน์ร้านดัง: ถูกโคตร 4900 บาท เรียนได้ 6 เดือน แต่เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นคลิปเก่าๆปี 2020 เจอคอมเม้นใต้คลิปมีคนบ่นว่าไม่เคยอัพเดท
- สถาบันชื่อหรูย่านเอกมัย: คุยโทรศัพท์ด้วยแล้วอารมณ์ดีมาก แม่นางให้ทดลองเรียนฟรี 1 ชม. แต่พอไปถึงห้องเรียนจริงๆ… เห้ยยย ครูฝรั่งพูดเร็วอะ เราแบบงงไปเป็นชม. ตลอดอ่ะ -_- คอร์สแพงเว่อร์ 4 หมื่นทุ่มไปไม่ไหวแน่
- คอร์สครูไทยสไตล์ติวเตอร์: ได้ยินรีวิวว่าสอนสนุก ติดว่ามีเวลาเรียนเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เจอตรงเวลาที่เราต้องไปรับลูกกลับจากร.ร.พอดีเป๊ะ เรียนไปก็แอบดูนาฬิกาเรื่อยๆ
- แอปฯในมือถือ: ลองโหลดมาหลายอัน เรียนไป 3 วันแรกฮึกเหิม พอวันที่ 4 อ่ะ แม่นางแจ้งเตือนมาเรื่อย เปิดที “เรียนเพิ่ม 10 บาทนะคะ” โทษที! มันทำให้เรารู้สึกเหมือนโดนตามตื๊อ
ท้ายที่สุดแล้วลงคอร์สนี้!
นี่เลยตัวเลือกที่เราเจอมานะ:
ชื่อคอร์สไม่ขอพูด (เดี๋ยวดราม่า): ที่ลงเพราะเจอบนเพจเด็กไทยในอังกฤษรีวิวเพียบ มีคนบอกว่า “อ่านหนังสือเล่มนี้ผ่านแล้วคุมสอบแทบไม่ทัน” มันก็ยังดีกว่าโดนหลอกด้วยป้ะ? ^^”
จุดเด่นสุด: เวลาเรียนยืดหยุ่นมาก! มีคลิปใหม่อัพทุกอาทิตย์ เราสลับดูตอนลูกหลับ หรือตอนคอยรถติดก็เรียนได้ ตลอด 17.00น.จะส่งการบ้านอัดเสียงพูดไปเช็คให้ด้วย
ข้อเสียปวดใจ: เนื้อหาเยอะมากกกก กว่าหน้าจะเปลี่ยนนี่ต้องเลื่อนลงนานเหมือนดูหนังอินเดีย! แถมมีบางบทที่ทำแบบฝึกหัดไปบ่นดังๆว่า “ข้อนี้เฉลยผิดนี่หว่า…” (แต่หลังจากนั้น ครูเขาอัพเดทเฉลยใหม่ในวันรุ่งขึ้น แหม! ใช้ได้ๆ)
เก็บรายละเอียดหน้างาน
ระหว่างเรียน:
- ศัพท์ยุ่งยาก: เขามีเทคนิคให้จับคู่คำเหมือนเวลาจับคู่อย่างเร็วเลยจ้า! อย่างคำว่า “allocate” ที่แปลว่าแบ่งส่วนเนี่ย ครูเขาสอนให้จินตภาพวาดแผนกๆงบประมาณกระจายออกไป แบบ: “อันนี้กองทุนไปกินสเต็ก อันนี้ไปซื้อครีมกันแดด” มันทำให้จำง่ายโคตร
- ฝึกพูดยังไงไม่ให้ฝรั่งงง: ในกรุ๊ปไลน์คอร์ส มีครั้งนึงคุยกับเพื่อนร่วมคอร์สแล้วตะกุกตะกัก เพื่อนทักมาว่า “อ้าว เอ็งพูดศัพท์ถูกนะ แต่ออกเสียง “th” เหมือนกำลังลิงขบถั่วอยู่” เราหัวเราะก๊ากแล้วก็อายเบาๆ TT
แต่ที่เซ็งสุด!
ตอนไปสอบ mock speaking จำลองสนามหน้างาน เราเตรียมมากว่าจะพูดเป๊ะ แต่พอเริ่มคุยจริงกับครูฝรั่ง นึกศัพท์ไม่ออกไป 10 วินาที จนครูเขาสบถเบาๆว่า “Come on, you can do it…” พูดจบรู้สึกเหมือนออกกำลังมา 30 นาที เหงื่อไหลไปทั้งตัว!
สรุปผลลัพธ์ 2024
ลองดูตัวเลขให้เห็นภาพ:
- ก่อนเรียน: IELTS mock reading ได้ 4.5
- หลังเรียน 3 เดือน: ได้ 6.0 (ใกล้เคียงมาก! ถือว่าโอเคนะ พอไปสู้รบปรบมือได้)
แต่… ก็ไม่เวิร์คขนาดนั้น! เห้อออ
ข้อสอบฟังมันยังไต่ระดับยากขึ้นเรื่อยๆ แถมบางครั้งก็งง accent ที่ไม่คุ้นหู ต้องไปดูยูทูบเสริมอีกต่างหาก และส่วนที่อ่อนสุด คือการเขียน essay ยังต้องดึงตัวอย่างเก่งๆมาเปรียบเทียบเพิ่มเองอีกนิด
คอร์สมันก็เวิร์คในส่วนราคาและเวลา แต่เราต้องขยันเพิ่มเองอีกนิด อย่าใจร้อน แถมตอนยื่นมหาวิทยาลัยจริง ก็เจอ requirement เพิ่มเติมด้วยนะ เช่นบางที่เน้น writing มากเป็นพิเศษ
โดยรวมถือว่าเวิร์คนะถ้าให้ให้เราชี้! เพราะมันอัพเดทเทคนิคปีล่าสุดจริง เลิกได้เป็นเวลากำหนดไม่ได้ก็ยังพอไหว แต่ต้องลงแรงไปเพิ่มในจุดที่เราขาดเองอีกหน่อยเนอะ…ใครกำลังเลือกอยู่ กำลังคิดว่าเราเวิร์คไหมเอ่ย?