พอดีเจอปัญหามาหลายวันละ เรียนภาษาอังกฤษทีไรเหมือนจะเข้าใจแต่พอลองใช้จริงกลับมึนตึบเลย วันนี้เลยตั้งใจจะหาวิธีแก้จุดอ่อนให้ได้สักที
เริ่มจากเปิดหนังสือเก่าที่ซื้อมานานแต่ยังไม่ได้อ่านสักหน้า
นั่งแกะเพลินอยู่ซักพัก…ตาเริ่มล้า! ความดันขึ้นเพราะเห็นศัพท์ยากเต็มไปหมด ปิดตำราหน้า23ทันที รู้สึกว่าแบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแผนแล้ว
- ฉุดตัวเองไปยืนหน้าโต๊ะกาแฟ : คว้ายุโรปบุกของโปรดมาแก้วนึงแล้วเริ่มใหม่
- หยิบสมุดเก่าเล่มสีลอกเทามาจากลิ้นชัก : พลิกหน้าแรกแล้วเขียนหัวข้อใหญ่ๆว่า “จุดที่แม่มืด!”
- เปิดคลิปในยูทูปที่มีคนสอนพื้นฐาน : เลือกคลิปที่เขาพูดช้าสุดแล้วกดเปิดซ้ำตรงประโยคที่ฟังไม่ออกสามรอบ
ระหว่างจิบกาแฟอยู่ก็เห็นเทคนิคลับๆในคอมเมนท์!
มีคนบอกให้เอาวันทั้งวันมาแบ่งเป็นสามช็อต แทนที่จะยัดทีละมากๆ
- เช้า 15 นาที : ท่องศัพท์ใกล้ตัวในห้องนอน (โต๊ะ/เตียง/หน้าต่าง)
- บ่าย 10 นาที : ฝึกแต่งประโยคง่ายๆจากสิ่งที่เห็น (แมว + นอน = แมวนอนหลับ)
- เย็น 5 นาที : แปะโน้ตติดผนังตรงที่มองบ่อยๆ เขียนว่า “You can do it!”
ลองทำตามทันที! ใช้ปากกาเน้นคำสีเหลืองขีดเส้นใต้คำว่า “bed” ในสมุดจนกระดาษเป็นรอยบุ๋ม ยิ่งเขียนคำเดิมซ้ำๆมือก็เริ่มจำทางเองโดยไม่ต้องคิด
มืดแล้วก็ยังไม่หยุด!
หลังข้าวเย็นเอาสมุดขึ้นมากองบนตักอีก เริ่มวาดรูปสัตว์ประหลาดข้างๆคำศัพท์ใหม่ แม่งได้ผลนะ! ตอนท่องคำว่า “elephant” นึกภาพงูดินจิ้มผสมช้างหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเลยจำได้แม่น
ก่อนนอนเขียนสรุปสามบรรทัดติดผนังห้องน้ำ : เปิดแอร์ทั้งคืนแล้วโดนแมลงหวี่บินเข้ารังผึ้งในฝัน แต่เช้ามาก็ยังจำศัพท์แมลงหวี่ได้อยู่!
สรุปสั้นๆวันนี้คือ ยัดเยียดมากไปก็พัง จับจุดอ่อนมาทีละนิดแล้วทำให้มันดูน่ารักขึ้น (ชอบวาดรูปก็ใส่มันเข้าไป) อย่างน้อยก็ผ่านหน่วยที่1ไปได้แบบไม่เกลียดภาษาอังกฤษเพิ่ม!