สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมกับการลองเรียนภาษาอังกฤษผ่านแอป Palfish ดูบ้าง เอาแบบบ้านๆ เลยนะ ไม่ต้องวิชาการอะไรมาก
จุดเริ่มต้นของการลอง Palfish
คือเรื่องมันมีอยู่ว่า ผมเนี่ยอยากจะฝึกพูดภาษาอังกฤษมานานละ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี เคยลองเรียนคอร์สออนไลน์บ้าง ดูหนังซาวด์แทร็กบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ผลเท่าไหร่ เพราะไม่ได้พูดจริงจังซักที พอดีไปเจอรีวิวแอป Palfish เนี่ยแหละ เขาบอกว่าได้คุยกับครูฝรั่งตัวเป็นๆ เลยนะ ก็เลยอ่ะ ลองดูซักตั้งวะ!
ขั้นตอนการใช้งานจริงแบบลูกทุ่งๆ
อย่างแรกเลย ผมก็ไปดาวน์โหลดแอป Palfish มาติดตั้งในมือถือก่อนเลย หน้าตามันก็ดูใช้งานง่ายดีนะ ไม่ซับซ้อนอะไรมาก สมัครสมาชิกก็ไม่ยุ่งยาก กรอกข้อมูลนิดหน่อยก็เสร็จละ
พอเข้ามาในแอป โอ้โห ครูเพียบ! มีให้เลือกเยอะมาก ทั้งครูเจ้าของภาษาจริงๆ (Native Speaker) จากอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย แล้วก็มีครูจากฟิลิปปินส์ด้วยนะ ราคาก็จะแตกต่างกันไป ผมก็เริ่มจากการส่องโปรไฟล์ครูก่อนเลย ดูว่าคนไหนน่าสนใจ ดูรีวิวจากนักเรียนคนอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจ
ตอนแรกก็ยังงงๆ ว่าจะเลือกเรียนแบบไหนดี มันมีทั้งแบบ Free Talk คือคุยเรื่อยเปื่อยตามหัวข้อที่เราอยากคุย กับแบบที่เป็น คอร์สเรียน ซึ่งจะมีบทเรียนเป็นเรื่องๆ ไป ผมตัดสินใจลองแบบ Free Talk ก่อน เพราะอยากจะลองเชิงดูว่าครูเขาสอนเป็นยังไง คุยสนุกมั้ย
ผมก็ลองจองคลาสกับครูคนนึงไป เป็นครูชาวอเมริกัน ตอนจองก็เลือกเวลาที่เราสะดวกได้เลย พอถึงเวลานัด แอปมันก็จะแจ้งเตือน ก็กดเข้าไปเรียน เป็นการเรียนแบบวิดีโอคอล เห็นหน้าเห็นตากันเลย
ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้คุย บอกตรงๆ ว่าตื่นเต้นมาก! พูดผิดพูดถูกไปหมด แต่ครูเขาก็ใจเย็นนะ พยายามทำความเข้าใจ แล้วก็ช่วยแก้ไขให้เราด้วย สำเนียงครูชัดเจนดีมาก ฟังง่าย ผมก็พยายามชวนคุยเรื่องทั่วไป เรื่องงานอดิเรก เรื่องเมืองไทยบ้าง ครูก็ชวนคุยเก่ง ทำให้ไม่รู้สึกเกร็งเท่าไหร่
เรียนไปซักพักแล้วเป็นไงบ้าง?
หลังจากลองเรียนแบบ Free Talk ไปสองสามครั้ง ผมก็เริ่มรู้สึกว่า เฮ้ย! มันดีว่ะ ได้พูดจริงๆ ได้ฝึกฟังจริงๆ มันต่างจากการเรียนในห้องเรียนเยอะเลย ผมเลยตัดสินใจซื้อเป็นแพ็กเกจเรียน เพราะมันจะคุ้มกว่าซื้อเป็นครั้งๆ ไป
ผมลองเปลี่ยนครูไปเรื่อยๆ นะครับ เพื่อหาคนที่สไตล์การสอนเข้ากับเราที่สุด บางคนก็เน้นแกรมม่า บางคนก็เน้นบทสนทนา บางคนก็มีเกมให้เล่นระหว่างเรียน สนุกดีเหมือนกัน ผมว่าข้อดีของ Palfish คือเราเลือกครูได้เองนี่แหละ ไม่พอใจคนนี้ก็เปลี่ยนไปเรียนกับคนอื่นได้
- สิ่งที่ชอบ:
- ได้คุยกับเจ้าของภาษาจริงๆ ทำให้ชินกับสำเนียง
- เลือกเวลาเรียนเองได้ สะดวกมาก
- มีครูให้เลือกเยอะ หลากหลายสไตล์
- ครูส่วนใหญ่ใจดีและเป็นกันเอง
- แอปใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
- สิ่งที่อาจจะต้องพิจารณา:
- ค่าเรียนถ้าเทียบกับบางที่อาจจะสูงหน่อย แต่ถ้าเทียบกับการได้คุยตัวต่อตัวกับเจ้าของภาษาก็ถือว่ารับได้
- บางครั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ตอาจจะมีปัญหาบ้าง ทำให้เสียงหรือภาพกระตุก (อันนี้อาจจะเป็นที่เน็ตผมเองด้วย)
- ต้องมีวินัยในการจองคลาสและเข้าเรียนสม่ำเสมอ ไม่งั้นก็ไม่เห็นผล
ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้งานจริง
ถามว่าภาษาอังกฤษผมดีขึ้นแบบก้าวกระโดดเลยมั้ย? ก็คงยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ มันต้องใช้เวลา แต่ที่แน่ๆ คือผมกล้าพูดมากขึ้นเยอะ จากที่เมื่อก่อนจะพูดทีต้องคิดแล้วคิดอีก กลัวผิดแกรมม่า กลัวเขาฟังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้คือมั่นใจขึ้นเยอะ พูดออกไปก่อนเลย ผิดถูกยังไงครูก็ช่วยแก้ให้
แล้วก็ได้ศัพท์ใหม่ๆ สำนวนใหม่ๆ ที่ฝรั่งเขาใช้กันจริงๆ ในชีวิตประจำวันเยอะเลยครับ ซึ่งบางทีในตำราเรียนมันไม่มีสอนนะ ผมว่าการได้คุยกับคนจริงๆ นี่แหละคือการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
ทุกวันนี้ก็ยังเรียนอยู่เรื่อยๆ นะครับ อาจจะไม่ได้ถี่เหมือนช่วงแรกๆ แต่ก็พยายามหาเวลามาฝึกพูดอยู่เสมอ เพราะภาษามันต้องใช้บ่อยๆ ถึงจะคล่อง
ก็ประมาณนี้แหละครับ ประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษกับ Palfish ของผม หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาตัวช่วยในการฝึกภาษาอยู่นะครับ ลองไปโหลดมาเล่นๆ ดูก่อนก็ได้ ไม่เสียหายอะไร