สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยเรื่องพาลูกไปหาที่เรียนพิเศษภาษาอังกฤษ คือมันเป็นอะไรที่ปวดหัวมากสำหรับพ่อแม่หลายๆ คนเลยใช่ไหมครับ ผมก็คนนึงล่ะ กว่าจะหาที่ที่ถูกใจลูก ถูกใจเราได้นี่ ลองผิดลองถูกมาเยอะเหมือนกัน
ตอนแรกๆ เลยนะ ก็เหมือนคนอื่นๆ แหละครับ เปิดเน็ตดูก่อนเลย โอ้โห สถาบันนั้นดี สถาบันนี้เด่น มีทั้งแบบครูฝรั่งแท้ๆ ครูไทยสอนแกรมม่าแน่นๆ หรือแบบเรียนผ่านเกม ผ่านกิจกรรม สารพัดจะโปรโมทกันเข้ามา เราก็ตาลายสิครับ เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ
ช่วงตะลุยหาที่เรียน
ผมก็เริ่มจากลิสต์รายชื่อที่คิดว่าน่าสนใจไว้ก่อน แล้วก็เริ่มโทรไปสอบถามข้อมูลบ้าง ไปดูสถานที่จริงบ้าง บางที่นะ โอ้โห อลังการงานสร้างมาก สื่อการสอนทันสมัย แต่พอถามเรื่องค่าเรียนเท่านั้นแหละ ลมแทบจับ! แพงไม่ใช่เล่นเลย บางที่ก็ดูเหมือนจะดี แต่พอไปนั่งสังเกตการณ์ตอนเค้าสอนกันจริงๆ รู้สึกว่าครูดูไม่ค่อยทั่วถึงเด็กเท่าไหร่ เด็กเยอะไป ครูคนเดียวเอาไม่อยู่ก็มี
ผมมีหลักเกณฑ์ในใจของผมเองนะ ไม่ได้หรูหราอะไรมาก คือ:
- อยากให้ลูกสนุก: อันนี้สำคัญสุดเลย ไม่อยากให้เค้ารู้สึกว่าการเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องน่าเบื่อ หรือโดนบังคับ
- ครูผู้สอน: ไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นฝรั่งเจ้าของภาษาเสมอไปนะ แต่ขอให้ครูมีเทคนิคการสอนที่ดี เข้าใจเด็ก และที่สำคัญคือใจเย็น
- จำนวนนักเรียนต่อห้อง: ไม่อยากให้เยอะเกินไป กลัวลูกเราจะไม่ได้รับการดูแลทั่วถึง
- การเดินทาง: อันนี้ก็สำคัญสำหรับคนเมืองอย่างเราๆ ไม่อยากให้ไกลบ้านมาก เดี๋ยวจะเหนื่อยทั้งคนไปรับไปส่ง ทั้งตัวเด็กเอง
- ค่าใช้จ่าย: แน่นอนว่าต้องสมเหตุสมผล ไม่ได้ถูกสุดๆ แต่ก็ไม่ควรแพงจนเราต้องกัดฟันจ่าย
มีอยู่ครั้งนึง พาลูกไปทดลองเรียนที่นึง กลับออกมาลูกชายหน้าจ๋อยเลย บอกว่าครูพูดเร็วมาก ฟังไม่ทันเลย แล้วก็มีการบ้านเยอะด้วย คือลูกผมยังเล็กไงครับ อยากให้เค้าค่อยๆ ซึมซับมากกว่าจะไปยัดเยียดวิชาการให้เค้ามากเกินไป ผมก็เลยต้องตัดที่นั่นออกจากตัวเลือกไป
แล้วก็เจอจนได้!
หลังจากวนๆ เวียนๆ หาอยู่พักใหญ่ ท้อไปหลายรอบเหมือนกันนะ ก็มีวันนึงบังเอิญได้คุยกับผู้ปกครองของเพื่อนลูกที่โรงเรียน เค้าก็แนะนำที่เรียนเล็กๆ ที่นึง ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรเลย อยู่ในซอยแถวบ้านผมนี่แหละ ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนะ คิดว่าลองไปดูก็ไม่เสียหาย
พอไปถึงนะ โอ้โห มันต่างจากที่เคยไปดูมาเลย เป็นเหมือนบ้านหลังเล็กๆ อบอุ่นๆ ไม่ได้หรูหรา แต่ดูเป็นกันเองมาก ครูผู้สอนเป็นครูต่างชาติก็จริงนะ แต่เค้ามีวิธีพูดคุยกับเด็กๆ ได้น่ารักมาก ใช้เกม ใช้เพลงเข้ามาสอนตลอด ลูกผมนี่ จากที่ตอนแรกเกร็งๆ พอได้เข้าไปลองนั่งเรียนดูแป๊บนึง เริ่มมีเสียงหัวเราะออกมาเลยครับ เค้าดูสนุกมาก
ที่สำคัญคือจำนวนเด็กในห้องไม่เยอะ ครูดูแลทั่วถึงจริงๆ คอยกระตุ้นให้เด็กทุกคนกล้าพูด กล้าแสดงออก ผิดถูกไม่เป็นไร ขอให้กล้าไว้ก่อน อันนี้ผมชอบมากเลย
ผลลัพธ์ที่ได้
สุดท้าย ผมก็เลยตัดสินใจให้ลูกเรียนที่นี่แหละครับ ตอนนี้ก็เรียนมาได้หลายเดือนแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ ลูกผมกระตือรือร้นอยากไปเรียนมาก ไม่เคยงอแงเลย กลับมาจากโรงเรียนบางทีก็มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษใหม่ๆ มาพูดให้ฟังบ้าง ฮัมเพลงภาษาอังกฤษบ้าง ถึงจะยังพูดไม่คล่องปรื๋อ แต่เค้าดูมีความสุขกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นเยอะเลยครับ จากที่เคยกลัวๆ ตอนนี้กล้าพูดมากขึ้น ถึงจะผิดๆ ถูกๆ บ้าง ผมว่าแค่นี้ก็คุ้มแล้วล่ะ
ก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ประมาณนี้แหละครับ คือจะบอกว่า การหาที่เรียนให้ลูกเนี่ย บางทีมันก็ไม่ได้อยู่ที่ชื่อเสียงใหญ่โต หรือค่าเรียนแพงๆ เสมอไปนะ ของแบบนี้มันต้องดูกันที่ความเข้ากันได้ของลูกเรากับสไตล์การสอนของครูจริงๆ บางทีที่เล็กๆ บ้านๆ อาจจะเหมาะกับลูกเรามากกว่าก็ได้ ลองค่อยๆ หา ค่อยๆ ดูไปครับ เหนื่อยหน่อยตอนแรก แต่ถ้าเจอที่ที่ใช่แล้ว มันดีต่อใจทั้งพ่อแม่ทั้งลูกจริงๆ ครับ