ไปเรียนภาษาอังกฤษที่อังกฤษราคาเท่าไหร่ จัดงบยังไงให้ประหยัด

0
5

ดีครับ วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่าการไปเรียนภาษาที่อังกฤษเนี่ย เคยลองทำมาแล้วจริงๆ มันต้องใช้เงินเท่าไหร่ แล้วจะจัดงบยังไงให้ไม่เจ๊ง

เริ่มจากความตั้งใจ

ก็เริ่มจากนั่งดูยูทูปไปเรื่อยๆ เจอคลิปนักเรียนเมืองนอก แล้วก็มโนว่า “เราน่าจะทำได้บ้างมั้ง” เลยนั่งกูเกิลคำว่า “เรียนภาษาที่อังกฤษ” อ้าวโห! ดูๆ ไปราคาคอร์สปาไปหลักแสน! เกือบถอดใจแล้วนะเนี่ย

ขั้นตอนแรก : ขุดหาข้อมูล

เปิดด่านแรก ค้นหาโรงเรียน เอาแบบไม่ต้องมีเอเจนต์มากวนใจ ลิสไว้สามสี่ที่ ในลอนดอน แมนเชสเตอร์ บาธ เคยแอร์ดร็อปลงตรงหน้าเว็บก็จับตาดูไว้ ตอนนั้นนั่งเซฟเว็บโรงเรียนเก็บไว้เพียบ

ขั้นต่อมา : มันต้องบินได้สิ ดันกล่องข้าวขึ้นเครื่องนี่ชิบหาย! หมุนเว็บสายการบินแทบเป็นลม ทั้งไทยแอร์เอเชีย อีวีเอ แอร์ฟรานซ์ บางวันราคาตั๋วพุ่งไปสองสามหมื่น ดูดึกๆ ดื่นๆ ราคาเริ่มหลักหมื่นต้นๆ ก็กดรีเฟรชจนตาลายเลยทีเดียว

จัดกระเป๋างบให้รอด

ลองมานั่งคิดแบบบ้านๆ (เอาแบบไม่ต้องพึ่งแอพฯ บัญชีให้ปวดหัว) จัดสัดส่วนง่ายๆ ตามนี้:

  • คอร์สเรียน : สี่อาทิตย์ ปาไปเกือบสี่แสน! (รวมเอกสาร จัดส่งวีซ่าอีกเล็กน้อย) เลือกคอร์สสั้นๆ เพราะมันถูกลง
  • ค่าบิน : ตามล่าตั๋วโปรไปสามวันตาสี่ตา ตั๋วไปกลับเจอที่สามหมื่นนิดๆ (ดีใจจะร้องไห้)
  • อยู่ที่ไหนดี : ฮอสเทลในลอนดอนมันสุดจะแพง เลยลองดูเมืองนอกกรุงบาธตามคำแนะนำเพื่อน สี่อาทิตย์จ่ายไปประมาณสามหมื่นกว่าบาทเอง อู้หู!
  • เงินถือไป : นี่คือส่วนสำคัญ! เคยได้ยินว่าเค้าบอกเอาไปวันละพันบาท ตัวเราเลยเตรียมซื้ออาหารและเดินทางไว้สัปดาห์ละห้าพัน ออมไว้เลยสามหมื่น

ของจิ๊บจ้อยที่หารู้ไม่!

มโนไม่ถึงว่า ค่าขนมจุกจิก นี่สิ้นเปลือง! ยกตัวอย่างง่ายๆ :

  • บัตรรถไฟ underground รายสัปดาห์ : เจ็ดร้อยปาย
  • ซิมการ์ดเน็ตใช้สัญญาณได้แบบไม่อั้น : พันนึง
  • น้ำขวดแก้วนึงที่ร้านสะดวกซื้อ : หกสิบบาท
  • ค่าบัตรเข้าพิพิธภัณฑ์บางที่ : บาทสองบาท… อันนี้ต้องเลือกดีๆ

เงินถุงเงินถังที่เตรียมไปวันสุดท้ายเกือบไม่พอ เศษเหรียญเก็บมารวมกันนี่… ซื้อขนมปังกินแก้ขัดเลยนะ!

เคล็ด(ไม่)ลับประหยัดฉบับคนจน

จากที่ลองผิดลองถูกมา ขอแชร์แบบตรงๆ เลย:

เคล็ดลับข้อหนึ่ง : อย่าหลงเมืองหลวง อยู่ลอนดอนนี่แพงสุดๆ ลองเลือกเมืองรองอย่างบาธ ไบรตัน หรือแมนฯ ค่าเรียน ค่าอาหาร ค่าอยู่ถูกกว่าได้มากเลยแหละ ค่าเที่ยวก็กินแรงน้อยลง!

เคล็ดลับข้อสอง : กินอยู่อย่างคนท้องถิ่น เราเลิกกินร้านอาหารไทยอร่อยๆ ราคาแพง หันไปส่องร้านฟิชแอนด์ชิปส์ราคาย่อมเยากับซูเปอร์มาร์เก็ตขายของชำแทน ตุนขนมปัง ผลไม้ โยเกิร์ต ยิ่งแบ่งกับเพื่อนร่วมห้องก็ยิ่งประหยัดขึ้นอีก! ส่วนเรื่องกาแฟเนี่ย… เตรียมถุงซ้อนชงกินเองดีกว่า เฉลี่ยแก้วละสามสิบบาทเองจะไปวัดกับร้านกาแฟร้อยเก้าสิบบาททำไม

เคล็ดลับข้อสาม : ตามจองล่วงหน้าเถอะ ทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พัก ถ้าจองก่อนสามถึงหกเดือนราคาเริ่มหล่นลงมาอย่างเห็นได้ชัด มองหาลดราคาตรงช่วงนั้นให้ดีๆ บางทีโปรโมชั่นมาแบบไม่ทันตั้งตัวก็ต้องพร้อมคว้าไว้

เคล็ดลับข้อสี่ : อย่าลืมประกันเดินทาง ต้องยอมจ่าย! เจ็บป่วยขึ้นมาข้างนอกนี่ค่าโรงพยาบาลโหดสุดๆ ลองเทียบหลายเจ้า เอาแบบคุ้มครองไว้นะเนี่ย

แล้วทั้งหมดเสียเงินเท่าไหร่กันแน่?

รวมทุกอย่างแบบไม่เหลือหรอ พร้อมของเดินทางและบัตรต่างๆ สุดท้ายอยู่รอดกลับมาด้วยค่าใช้จ่ายประมาณ หนึ่งแสนสอง สำหรับสี่อาทิตย์เต็มๆ ได้ความรู้ภาษาอังกฤษและประสบการณ์เก็บกระเป๋าแบบจัดงบจนรอดไปด้วย!

บอกตรงๆ นะ ฝันนี้ไม่เล็กเกินไปหรอก แค่ต้องวางแผนเก็บตังค์สักพักใหญ่ แล้วคอยจ้องราคาส่วนลดแบบเสียวไส้ ถือเป็นบทเรียนเรื่องเงินที่เจ็บแต่ก็ทรงพลังสุดๆ ใครกำลังคิดไปลองดู… จัดการงบให้สตรองก่อนละกันเนอะ!