อยากรู้ PalFish รีวิว Pantip (รวมทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนเริ่มเลย)

0
6

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ตรงๆ กับการลองใช้งาน PalFish ที่เห็นคนพูดถึงกันเยอะใน Pantip ว่ามันเป็นยังไง ดีจริงไหม ผมเองก็สงสัยเหมือนกัน เลยตัดสินใจลองสมัครแล้วก็ใช้งานดูสักพักใหญ่ๆ เลยครับ จะมาเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบเลย

เรื่องมันเริ่มจากผมเห็นโฆษณาผ่านๆ ตาบ่อยมาก แล้วก็มีเพื่อนบางคนเคยพูดถึงว่ามันเป็นแอปสำหรับสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้เด็กๆ ชาวจีน ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก คิดว่าคงยุ่งยากน่าดู แต่พอดีช่วงนั้นว่างๆ อยากหารายได้เสริม แล้วสกิลภาษาอังกฤษเราก็พอถูไถได้ เลยคิดว่า เอ้อ ลองดูซักตั้งจะเป็นไรไป

ขั้นตอนการสมัครและเตรียมตัว

ผมเริ่มจากการดาวน์โหลดแอป PalFish มาติดตั้งในมือถือก่อนเลยครับ หน้าตาแอปก็ดูใช้งานง่ายดีนะ หลังจากนั้นก็เริ่มขั้นตอนการสมัคร ซึ่งก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก กรอกข้อมูลส่วนตัวทั่วไป แล้วก็มีให้ถ่ายรูปโปรไฟล์ อัดวิดีโอแนะนำตัวสั้นๆ โชว์ทักษะการพูดภาษาอังกฤษของเรานิดหน่อย ตรงนี้ผมก็พยายามพูดให้ชัดถ้อยชัดคำ มั่นใจเข้าไว้ แล้วก็ส่งเอกสารยืนยันตัวตนไปตามระเบียบ

หลังจากส่งข้อมูลทั้งหมดไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงช่วงรออนุมัติครับ จำได้ว่าลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะผ่านไหม เพราะเห็นบางคนบอกว่ารอนาน หรือบางทีก็ไม่ผ่านเลย แต่ของผมนี่รอประมาณอาทิตย์นึงมั้งครับ ก็มีแจ้งเตือนมาว่าผ่านการอนุมัติแล้ว ดีใจสุดๆ!

พอผ่านแล้วยังสอนเลยไม่ได้นะครับ มันจะมีช่วงให้เราเข้าไปตั้งค่าโปรไฟล์ตัวเองให้เรียบร้อย ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์การสอน (ถ้ามี) หรือความถนัดต่างๆ แล้วก็จะมีเหมือนบทเรียนสั้นๆ ให้เราลองศึกษาดูวิธีการสอนของเค้าก่อนด้วย เพื่อให้เข้าใจแพลตฟอร์มมากขึ้น ผมก็ใช้เวลาศึกษาอยู่พักนึงเลยครับ อยากให้พร้อมที่สุด

เริ่มเปิดรับนักเรียนและสอนจริงจัง

พอเตรียมตัวพร้อมแล้ว ผมก็เริ่มเปิดตารางเวลาว่างของตัวเองในแอป เพื่อให้นักเรียนสามารถเข้ามาจองคิวเรียนได้ ช่วงแรกๆ ก็ยังไม่ค่อยมีนักเรียนเข้ามาเท่าไหร่ครับ อาจจะเพราะโปรไฟล์เรายังใหม่อยู่ ผมก็พยายามเข้าไปอัปเดตโปรไฟล์บ่อยๆ ทำกิจกรรมในแอปบ้างเพื่อเพิ่มการมองเห็น

ไม่นานก็เริ่มมีนักเรียนคนแรกติดต่อเข้ามาจองคิวครับ ตื่นเต้นมาก! ก่อนสอนก็เตรียมตัวเยอะเลย ดูเนื้อหาที่ต้องสอน เตรียมอุปกรณ์ประกอบการสอนเล็กๆ น้อยๆ เช่น รูปภาพ หรือตุ๊กตา (เผื่อเด็กๆ จะชอบ) พอถึงเวลาสอนจริง ก็กดเข้าห้องเรียนในแอปเลยครับ

  • การสอน: ส่วนใหญ่จะเป็นการสอนผ่านวิดีโอคอล มีสไลด์เนื้อหามาให้พร้อม เราก็สอนไปตามนั้น เน้นการพูดคุยโต้ตอบกับนักเรียนเยอะๆ เด็กๆ ส่วนใหญ่น่ารักครับ แต่ก็มีบ้างที่ซนๆ หน่อย หรือสมาธิสั้น เราก็ต้องใช้เทคนิคในการดึงความสนใจเค้ากลับมา
  • เวลา: ค่อนข้างยืดหยุ่นครับ เราเลือกเวลาที่เราสะดวกเปิดสอนได้เอง แต่ถ้าอยากได้นักเรียนเยอะๆ ก็อาจจะต้องเปิดสอนในช่วงเย็นๆ หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งเป็นเวลาที่เด็กๆ เลิกเรียน
  • ระบบ: ตัวแอปเองก็มีเครื่องมือช่วยสอนเยอะพอสมควรครับ เช่น ปากกาไวท์บอร์ด สติ๊กเกอร์ให้รางวัลเด็กๆ แรกๆ อาจจะงงๆ หน่อย แต่ใช้ไปสักพักก็คล่องเอง

ประสบการณ์และข้อสังเกตส่วนตัว

ช่วงแรกๆ ที่สอน ผมก็เจอปัญหาบ้างเหมือนกันครับ เช่น อินเทอร์เน็ตไม่ค่อยเสถียร ทำให้ภาพกระตุกหรือเสียงขาดหายไปบ้าง อันนี้ต้องเช็คให้ดีเลย หรือบางทีเจอนักเรียนที่เงียบมาก ไม่ค่อยยอมพูด เราก็ต้องพยายามชวนคุย สร้างบรรยากาศให้เป็นกันเอง

เรื่องรายได้ สำหรับผมถือว่าโอเคเลยนะครับ มันอาจจะไม่ได้มากมายจนรวยทันที แต่มันก็เป็นรายได้เสริมที่ดี ยิ่งถ้าเราขยันเปิดสอน มีนักเรียนประจำเยอะๆ รายได้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย การจ่ายเงินของเค้าก็ตรงเวลานะครับ ไม่มีปัญหาอะไร

สรุปส่งท้าย

โดยรวมแล้ว จากประสบการณ์ที่ผมลองเป็นครูสอนใน PalFish มา ผมคิดว่ามันเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ดีเลยสำหรับคนที่อยากใช้ทักษะภาษาอังกฤษของตัวเองหารายได้เสริม แล้วก็ชอบสอนเด็กๆ ด้วย มันอาจจะต้องใช้ความอดทน ความพยายามในการเตรียมตัว แล้วก็ต้องปรับตัวเข้ากับเด็กแต่ละคน แต่ถ้าทำได้ มันก็เป็นงานที่สนุกและให้ประสบการณ์ที่ดีมากครับ

ใครที่กำลังสนใจอยู่ ผมว่าลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วก็ลองสมัครดูได้เลยครับ ไม่เสียหายอะไร อย่างน้อยก็ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ดูเนอะ! หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังตัดสินใจอยู่นะครับ