สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับเรื่อง PalFish ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เคยเจอมากับตัวเองล้วนๆ เลยนะ ไม่ได้ไปเอาข้อมูลที่ไหนมาโม้ คือผมเนี่ยก็เป็นคนหนึ่งที่เคยลองเข้าไปคลุกคลีในวงการนี้มาพักใหญ่ๆ เลยล่ะ
เริ่มจากศูนย์ ไม่รู้อะไรเลย
ตอนแรกสุดเลยนะ ผมก็เหมือนหลายๆ คนนั่นแหละ เห็นคนนู้นคนนี้พูดถึง PalFish ว่าเป็นช่องทางหาเงินได้ สอนภาษาอังกฤษออนไลน์ บลาๆๆ ก็เลยลองศึกษาดูคร่าวๆ จากที่คนอื่นเขาโพสต์ๆ กัน ก็ดูเหมือนจะง่ายนะ แค่มีมือถือเครื่องเดียวก็สอนได้แล้ว ค่าสมัครก็ไม่มี ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ?
ผมก็เอาเลยครับ สมัคร! ตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่องค่าใช้จ่ายอะไรหยุมหยิมเลย คิดแค่ว่าเดี๋ยวก็ได้เงินแล้ว ชิลๆ แต่พอเอาเข้าจริง มันไม่ได้ง่ายเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิดไว้เลยว่ะ
ค่าใช้จ่ายแฝงที่มองข้ามไม่ได้
พอเริ่มสอนจริงจังเท่านั้นแหละ โอ้โห… ค่าใช้จ่ายมันเริ่มงอกออกมาทีละอย่าง สองอย่าง จนรู้สึกว่า เอ๊ะ นี่มันไม่ใช่แค่มีมือถือแล้วจบนะ
- อินเทอร์เน็ต: อันนี้สำคัญสุดเลย ตอนแรกใช้เน็ตมือถือตัวเองสอน สัญญาณแกว่งมาก เด็กบ่นกระจาย สุดท้ายต้องยอมติดเน็ตบ้านแรงๆ เสถียรๆ ไม่งั้นสอนไม่ได้เลยจริงๆ เดือนนึงก็หลายร้อยอยู่
- อุปกรณ์เสริม: มือถือเครื่องเดียวเอาไม่อยู่ครับท่านผู้ชม! แสงไม่พอ ต้องหาไฟวงกลมมาเพิ่ม เสียงเบาไป ต้องหาหูฟังดีๆ มีไมค์ชัดๆ บางทีอยากให้เห็นภาพกว้างๆ ชัดๆ ก็ต้องมองหาขาตั้งกล้องอีก เผลอๆ บางคนอัปเกรดไปใช้แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์เลยด้วยซ้ำ ของพวกนี้รวมๆ กันก็หลายตังค์อยู่นะ
- สื่อการสอน Props: ใช่ครับ ตอนแรกคิดว่าใช้ไฟล์ PDF ในแอปก็พอ แต่พอสอนเด็กเล็กจริงๆ โอ้โห… พวกเขาต้องการอะไรที่จับต้องได้ สีสันสดใส ตุ๊กตามงตุ๊กตา บัตรคำศัพท์สวยๆ แฟลชการ์ดต่างๆ นานา คือถ้าไม่มีเลยเนี่ย คลาสจะน่าเบื่อมาก เด็กไม่สนใจ ผมก็ต้องเริ่มลงทุนซื้อของพวกนี้มาเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อย สะสมไปก็เยอะอยู่
- ค่าธรรมเนียมการถอนเงิน (ถ้ามี): อันนี้ต้องดูเงื่อนไขของแพลตฟอร์มให้ดี บางทีการถอนเงินเข้าบัญชีเรามันก็มีค่าธรรมเนียมจุกจิกเหมือนกันนะ แม้จะไม่เยอะ แต่หลายๆ ครั้งรวมกันก็เป็นเงิน
- เวลา = เงิน: อันนี้หลายคนอาจจะไม่นับเป็นค่าใช้จ่าย แต่สำหรับผมมันคือต้นทุนที่สำคัญมาก เวลาที่เราต้องเตรียมตัวก่อนสอน เวลาที่ต้องมานั่งรอเผื่อมีนักเรียนจองคลาสเข้ามา หรือเวลาที่ใช้ไปกับการทำการตลาดให้โปรไฟล์ตัวเองเป็นที่รู้จัก ทั้งหมดนี้มันคือเวลาที่เราเอาไปทำอย่างอื่นได้นะ
บทสรุปจากประสบการณ์ตรง
คือผมไม่ได้จะบอกว่า PalFish ไม่ดีนะ มันก็เป็นแพลตฟอร์มที่ดีแหละ มีคนทำแล้วรุ่งก็เยอะแยะไป แต่ที่อยากจะแชร์ก็คือ อย่ามองแค่ด้านเดียวว่ามันง่าย ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก
สำหรับผมเอง กว่าจะเริ่มมีรายได้ที่พอใจได้บ้าง ก็ต้องลงทุนลงแรงไปพอสมควรก่อนเลย ทั้งเรื่องอุปกรณ์ ทั้งเรื่องเวลาพัฒนาตัวเองให้สอนเก่งขึ้น ดึงดูดนักเรียนได้มากขึ้น ช่วงแรกๆ ก็มีท้อบ้างนะ รายได้ไม่เข้าเป้า แถมมีรายจ่ายเพิ่มมาอีก แต่ก็กัดฟันสู้ไป
สุดท้ายแล้วเนี่ย ถ้าใครคิดจะเข้ามาทำ PalFish จริงจัง อยากให้ลองคำนวณค่าใช้จ่ายแฝงพวกนี้ดูด้วย วางแผนดีๆ ว่าเราพร้อมจะลงทุนกับมันแค่ไหน ถ้าเตรียมตัวมาดี เข้าใจธรรมชาติของมัน ผมว่ามันก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจเลยทีเดียวแหละครับ ส่วนตัวผมตอนนี้ก็ยังทำอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นรายได้หลักแล้ว ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้ลองทำครับผม!