สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองเลยกับเรื่อง palfish class ราคา เนี่ยแหละครับ คือเรื่องของเรื่องมันเริ่มจากลูกผมเริ่มโต อยากให้แกได้ลองเรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาดูบ้าง ก็เลยมีคนแนะนำ Palfish มา ก็เลยเป็นที่มาว่าต้องไปสืบเสาะราคาค่าคอร์สกันหน่อย
เริ่มต้นภารกิจตามล่าราคา Palfish
ตอนแรกเลยนะครับ ผมก็เหมือนคนอื่นๆ ทั่วไปแหละ เข้าไปดูในเว็บเค้าก่อนเลย กะว่ามันน่าจะมีบอกราคาชัดๆ แต่ก็นะครับ ส่วนใหญ่มันไม่ค่อยมีบอกกันตรงๆ หรอก มันต้องมีลูกเล่นนิดหน่อย ผมก็ลองโหลดแอปมาดูด้วยเลย เผื่อในแอปมันจะหาง่ายกว่า
สิ่งที่ผมเจออย่างแรกเลยก็คือ Palfish เนี่ยมันมีคลาสหลายแบบมากครับ มีทั้งแบบเรียนเดี่ยวๆ ตัวต่อตัวกับครูเลย หรือจะเป็นคลาสกลุ่มเล็กๆ ซึ่งราคามันก็ต่างกันไปอีก แล้วตัวครูผู้สอนเองก็มีผลกับราคาเหมือนกันนะ พวกครูเจ้าของภาษาแท้ๆ (Native Speaker) ราคาก็จะสูงหน่อย ถ้าเป็นครูฟิลิปปินส์ราคาก็จะย่อมเยาลงมา อันนี้ก็เป็นจุดนึงที่ต้องเอามาคิด
แพ็คเกจและโปรโมชั่นต่างๆ นานา
พอเริ่มดูไปลึกๆ ก็จะเจอเรื่องของ แพ็คเกจคลาสเรียน ครับ อันนี้เป็นเรื่องปกติของคอร์สเรียนออนไลน์เลย คือเค้าจะพยายามให้เราซื้อเยอะๆ ทีเดียว อย่างเช่น ซื้อ 50 คลาส แถม 5 คลาส หรือซื้อ 100 คลาส ได้ส่วนลดเพิ่มอะไรแบบนี้ พอหารเฉลี่ยต่อคลาสแล้วมันก็ดูถูกลงแหละครับ แต่เราก็ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ไปก่อน แล้วก็ต้องมั่นใจด้วยว่าจะให้ลูกเรียนจนจบคลาสที่ซื้อมาทั้งหมด
ผมก็ลองกดๆ ดูในแอป พยายามหา chỗ ที่มันบอกราคาชัดๆ บางทีก็ต้องลองทักไปคุยกับพวกที่ปรึกษาของเค้าดูบ้าง ถึงจะได้ข้อมูลที่มันเคลียร์ๆ หน่อย คือมันไม่ได้มีราคาเดียวตายตัวจริงๆ ครับ มันขึ้นอยู่กับหลายอย่างมาก
ปัจจัยที่ผมเจอว่ามีผลกับราคา Palfish
จากที่ผมลองงมๆ หาข้อมูลมาพักใหญ่ๆ เนี่ย ผมสรุปปัจจัยที่มันทำให้ราคา Palfish มันต่างกันได้ประมาณนี้ครับ:
- ประเภทครูผู้สอน: อย่างที่บอกไป ครู Native กับครูฟิลิปปินส์ ราคาไม่เท่ากัน
- รูปแบบคลาสเรียน: เรียนเดี่ยวแพงกว่าเรียนกลุ่มแน่นอน
- จำนวนคลาสที่ซื้อ: ยิ่งซื้อเยอะ เฉลี่ยต่อคลาสก็ถูกลง (แต่จ่ายก้อนใหญ่ขึ้น)
- โปรโมชั่น ณ ขณะนั้น: อันนี้ต้องคอยตามดูครับ บางทีมีโปรฯดีๆ ออกมาก็คุ้ม
ที่ผมรู้เรื่องพวกนี้ก็เพราะว่าผมนั่งงมอยู่นานเลยครับ ลองคุย ลองถาม ลองเปรียบเทียบดูหลายๆ แบบ กว่าจะได้ข้อสรุปว่าจริงๆ แล้ว palfish class ราคา มันไม่ได้มีคำตอบเดียวจริงๆ มันต้องดูว่าเราอยากได้แบบไหน สะดวกจ่ายเท่าไหร่ แล้วก็ต้องดูความต้องการของลูกเราเป็นหลักด้วยครับ
สุดท้าย ผมก็เลือกแพ็คเกจที่คิดว่าเหมาะกับลูกผมที่สุดไป ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ตรงที่อยากเอามาเล่าสู่กันฟังครับ ใครที่กำลังมองหาข้อมูลอยู่ ก็ลองเอาวิธีของผมไปปรับใช้ดูได้นะครับ คือต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ดู ค่อยๆ ถาม อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจครับผม