สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ตรงๆ กับเรื่อง Palfish ในไทยนี่แหละครับ คือเรื่องของเรื่องเนี่ย มันเริ่มจากช่วงนึงที่ผมเองก็มองหาลู่ทางหารายได้เสริมแบบออนไลน์จากที่ไทยนี่แหละ เพราะสถานการณ์ช่วงนั้นมันก็บีบๆ ให้ต้องหาอะไรทำเพิ่มนิดนึง แล้วก็ได้ยินคนพูดถึง Palfish กันเยอะพอสมควรเลยนะ ว่าแบบ เอ้อ สอนภาษาอังกฤษออนไลน์ ง่ายๆ สบายๆ รายได้ดี ยิ่งถ้าเราพอมีทักษะภาษาอยู่บ้าง ก็น่าจะไปได้สวยเลย ผมก็เลยแบบ อะ ลองซักตั้งวะ มันจะซักแค่ไหนกันเชียว
ลองของจริง: สมัครและสำรวจ
ก็เริ่มจากไปโหลดแอปมาเลยครับ Palfish เนี่ย หน้าตามันก็ดูทันสมัยดีนะ แต่พอเริ่มจะสมัครจริงจังเท่านั้นแหละ โอ้โหแม่เจ้า! เอกสารนี่ขอกันยิบย่อยมาก ทั้งพาสปอร์ต ทั้งวุฒิการศึกษา ใบรับรองการสอน (ถ้ามี) แล้วยังต้องอัดวิดีโอแนะนำตัวอีก คือเข้าใจแหละว่าเขาอยากได้ครูมีคุณภาพ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมตัวมา หรือเอกสารไม่พร้อมนี่คือท้อตั้งแต่เริ่มเลยนะ แล้วขั้นตอนการยืนยันตัวตนบางอย่าง ถ้าทำจากไทย บางทีมันก็มีติดขัดบ้าง สัญญาณเน็ตเอย ความเร็วในการอัปโหลดไฟล์เอย ก็ต้องใจเย็นๆ รอกันไป
พอเริ่มเข้าไปดูในระบบจริงๆ ผมก็เห็นเลยว่า โอ้โห คนสมัครเป็นครูกันเยอะมากกกก มีทั้งครูฝรั่งเจ้าของภาษาจริงๆ ครูจากฟิลิปปินส์ ยุโรปตะวันออก หรือแม้แต่คนไทยที่เก่งภาษาอังกฤษมากๆ ก็มาสอนกันเพียบ คือการแข่งขันมันสูงปรี๊ดเลยครับ ถ้าโปรไฟล์เราไม่เด่นจริง หรือไม่มีรีวิวดีๆ ติดตัวมาแต่แรกนี่ การจะให้นักเรียนใหม่ๆ มาเลือกเราก็ยากเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ
สิ่งที่เห็นและเป็นไปในตลาด Palfish (ในไทย)
ที่ผมสังเกตเห็นอีกอย่างคือเรื่องเรทราคาค่าสอนครับ มันหลากหลายมากจริงๆ บางคนตั้งราคาถูกสุดๆ เพื่อดึงดูดนักเรียนใหม่ๆ ก่อน แล้วค่อยปรับขึ้นทีหลัง บางคนก็ตั้งราคาสูงตามประสบการณ์และความมั่นใจ คือมันเหมือนเป็นตลาดเสรีที่ทุกคนต้องหาจุดยืนของตัวเองให้ได้ แล้วผู้ปกครองหรือนักเรียนเองก็คงต้องเลือกกันตาลายเลยว่าจะเรียนกับใครดี เพราะตัวเลือกมันเยอะเหลือเกิน
แล้วก็มีประเด็นเรื่องการเตรียมตัวสอนอีกนะ คือถึงแม้จะเป็นการสอนออนไลน์ แต่มันก็ไม่ใช่แค่เปิดกล้องแล้วพูดๆ ไปเรื่อยเปื่อยได้นะ เราก็ต้องเตรียมเนื้อหา เตรียมสื่อการสอนให้มันน่าสนใจ เหมาะกับเด็กแต่ละวัยแต่ละคนอีก ซึ่งตรงนี้มันก็กินเวลาพอสมควรเลย ยิ่งถ้าเรามีนักเรียนหลายคน หลายระดับชั้นนี่ยิ่งต้องจัดการเวลาดีๆ เลยครับ ไม่งั้นมีรวนแน่ๆ
ที่ผมว่ามันเป็นความท้าทายอีกอย่างสำหรับคนทำ Palfish ในไทยคือเรื่อง Time Zone ด้วย ถึงแม้ Palfish ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนจีน แต่ก็มีจากโซนอื่นบ้าง การที่เราต้องปรับเวลาตัวเองให้เข้ากับเวลานักเรียน บางทีก็ต้องสอนดึกๆ ดื่นๆ หรือเช้ามืด มันก็อาจจะกระทบกับชีวิตประจำวันเราได้เหมือนกันนะ
ทำไมผมถึงมาสนใจเรื่องนี้ล่ะ?
ที่ผมมาลองศึกษา ลองพยายามจะทำ Palfish เนี่ย ก็เพราะว่าช่วงนั้นผมเพิ่งย้ายกลับมาอยู่ไทยใหม่ๆ ครับ ก่อนหน้านั้นทำงานประจำอยู่ต่างประเทศ พอกลับมาก็อยากจะหาอะไรที่มันยืดหยุ่น ทำจากที่บ้านได้ แล้วเห็นเพื่อนๆ หลายคนในกลุ่มคนไทยที่เคยอยู่ต่างแดน หรือกลุ่มชาวต่างชาติในไทยเค้าพูดถึงกัน ก็เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นอีกช่องทางนึงที่ดี เพราะเราก็พอมีพื้นฐานภาษาอยู่บ้าง แล้วก็อยากใช้เวลากับครอบครัวที่ไทยมากขึ้นด้วย เลยพยายามจะหาอะไรที่ไม่ต้องเดินทางมากนัก
ตอนนั้นก็คิดไปต่างๆ นานาเลยนะ ว่าถ้าทำ Palfish ติดตลาดแล้ว อาจจะลาออกจากงานประจำที่กำลังมองหาอยู่ก็ได้ หรือทำเป็นอาชีพเสริมควบคู่กันไป แต่พอได้ลองสัมผัสจริงๆ จังๆ แล้วมันก็มีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะกว่าที่คิดไว้ตอนแรกเยอะเลยครับ ความคาดหวังกับความเป็นจริงมันก็มีช่องว่างอยู่บ้างเหมือนกัน
บทสรุปจากการลองจริงเจ็บจริง (นิดหน่อย)
สุดท้ายแล้ว หลังจากที่ได้ลองสมัคร ลองดูระบบ ลองประเมินความเป็นไปได้ต่างๆ นานา ผมก็ตัดสินใจว่า Palfish อาจจะยังไม่ใช่ทางของผมในตอนนั้นครับ คือผมไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะ เพราะก็เห็นหลายคนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ ได้เงินเป็นกอบเป็นกำจริงๆ แต่สำหรับผมเอง ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องการแข่งขันที่สูง ความต้องทุ่มเทเวลาในการเตรียมตัวและโปรโมทตัวเอง รวมถึงความไม่แน่นอนของรายได้ในช่วงแรกๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่ายังไม่ค่อยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผมเท่าไหร่
ผมว่าใครที่สนใจจะทำ Palfish ในไทยเนี่ย ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีๆ ประเมินตัวเองว่าพร้อมแค่ไหน มีจุดแข็งอะไรที่จะไปสู้กับคนอื่นได้ แล้วก็ต้องมีความอดทนสูงมากๆ ในช่วงเริ่มต้นครับ ถ้าทำได้ก็ถือว่าเป็นอีกอาชีพที่น่าสนใจเลยทีเดียว แต่ถ้าคาดหวังว่าจะเข้ามาแล้วได้เงินง่ายๆ สบายๆ อันนี้อาจจะต้องคิดใหม่นิดนึงครับ
ก็ประมาณนี้แหละครับ ประสบการณ์ส่วนตัวที่อยากเอามาแชร์ให้ฟังกัน ใครมีความเห็นยังไง หรือมีประสบการณ์กับ Palfish แบบไหน ก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนกัน