วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์หาที่เรียนอังกฤษฟรีๆ ไว้ใช้ทำงานให้เวิร์คนะ เรื่องมันเริ่มจากตอนสัมภาษณ์งานนั่นแหละ พอฝรั่งถามเป็นภาษาอังกฤษ ผมทำหน้าแบบ…เห้ย! คือฟังออกบางคำแต่รีบตื่นเต้นจนพูดไม่ออก พอกลับบ้านมาก็คิดว่าต้องปรับปรุงด่วน
แรกเริ่มหาแหล่งเรียนฟรี
ผมเปิดกูเกิลค้นคำว่า “เรียนอังกฤษฟรี” เจอเว็บนู่นเว็บนี่เพียบ แต่ส่วนใหญ่คือดองไว้อ่านทีหลังหรือไม่ก็เรียนได้แป๊บเดียวจบ ตอนแรกใช้ App สอนภาษา บนมือถือหลายตัว เรียนผ่านเกมได้วันสองวันก็เริ่มเบื่อเพราะมันซ้ำๆ แถมแบบฝึกหัดก็ไม่เกี่ยวกับการทำงานเลย
ปรับแผนใหม่หาที่เรียนจริงจัง
เลยเปลี่ยนวิธีการโดย:
- ตัดพวกคอร์สสั้นๆ ทิ้ง เพราะอยากได้เนื้อหาลึกๆ จริง
- โฟกัสที่การฟัง-พูด เป็นหลัก เน้นประโยคใช้งานได้ในออฟฟิศ
- หาแหล่งที่คนรีวิวว่าเวิร์ค โดยดูคอมเมนต์ว่าเค้าเอาไปใช้ทำงานได้จริงไหม
แล้วบังเอิญเจอ ห้องสมุดเขต แถวบ้านเค้ามีเปิด คลาสสอนสดฟรี สัปดาห์ละครั้ง! ตอนแรกนึกว่าเป็นแบบนั่งฟังเฉยๆ แต่ปรากฎว่าอาจารย์ให้ซ้อมบทบาทสมมติเป็นลูกค้ากับเซลล์ แถมเพื่อนร่วมคลาสเป็นวัยทำงานเพียบ
โดนใจจนเพิ่มเวลาเรียนเอง
นอกจากคลาสฟรีนี่ ผมยังจัดตารางเพิ่มเองโดย:
- ตั้งใจ ดูยูทูปที่เป็น Business English เน้นคลิปสั้นๆ วันละ 20 นาที
- ฝึกพูดกับแอพเสียงอ่านตามประเภทธุรกิจ จะบ้าดี! เลียนแบบสำเนียงเค้าทุกวันจนเริ่มชิน
- เอาข่าวเศรษฐกิจที่เป็นภาษาอังกฤษมา อ่านออกเสียงแทนหนังสือนิยาย
ผลลัพธ์หลังอัดฉีด 3 เดือน
เดือนก่อนมีฝรั่งมาคุยงานที่ออฟฟิศ ผมสามารถยืนดุ๊กดิ๊ก พรีเซนต์โปรเจกต์เป็นภาษาอังกฤษ ไปเลยนะเฮีย! ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้นั่งกุมขมับเวลาเมลฝรั่งมา แถมเพิ่งรู้ว่าห้องสมุดแถวบ้านมี กลุ่ม Debate ภาษาอังกฤษ ให้ฟรีทุกเสาร์เช้า อันนี้ต้องลองต่อแน่ๆ
สรุปแจมให้ว่าทำไมวิธีนี้เวิร์ค:
- เรียนฟรีได้ถ้าไม่เกี่ยงว่าต้องดัง – ห้องสมุด/เว็บรัฐบาลมีให้เพียบ แต่คนไม่ค่อยไป
- ต้องเจอคนจริงๆ ถึงจะลุ้นถูก – แอพดีแต่มันฝึกการโต้ตอบแบบคนจริงไม่ได้
- เน้นที่ทำงานได้ผลกว่าอัดแกรมม่า – ยิ่งเรียนศัพท์เฉพาะทาง ยิ่งเห็นผลเร็ว
ตอนนี้พอเริ่มพูดคล่อง ผมก็ ซ้อมคิดเป็นภาษาอังกฤษ ในหัวตลอดเวลาเลย บางทีหลุดพูดคนเดียวยังมี (แฟนบอกให้ไปหาหมอแล้ว ฮ่าๆ)