พอดีอยากเก่งภาษาอังกฤษพูดคล่องมาก เพราะเคยเข้าแล้วสอบพูดที่โรงเรียนมันห่วยแตก ตัดสินใจว่าไม่ยอมจ่ายเงินไปเรียนคอร์สแพงๆ เลยลองหาวิธีเรียนฟรีด้วยตัวเองดู โดยเริ่มจากเปิดใจเรียนใหม่ตั้งแต่ศูนย์
ก็เลยเริ่มขยันจัดตารางเวลาประจำวันให้เป็นเรื่องเป็นราว ก่อนนอนทุกคืนนั่งแปะตารางบนผนังห้องนอนเขียนว่าเช้า เย็น จะเรียนยังไง จากนั้นก็กระโจนเข้าหา 4 วิธีนี้แทบไม่รอเดี๋ยว
เริ่มวิธีแรก: เปิดยูทูปฟังทุกวัน
วันแรกปุ๊บ อัดวีดีโอภาษาอังกฤษในยูทูปโดยไม่สนใจว่าจะเบื่อหรือไม่ ผมนั่งฟังแบบไม่ต้องเข้าใจทั้งหมด ค่อยๆ ลองเลียนเสียงพูดตาม ตัวอย่างเช่น กดเล่นวีดีโอสั้นๆ ของคนฝรั่งพูดเรื่องธรรมดาเช่น ทักทายหรือเล่าเรื่องประจำวัน มันเซ็งบ้างตอนฟังแล้วไม่รู้เรื่อง แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ เวลาผ่านไปสักสองเดือน พอมีเรื่องใหม่ๆ ผมก็เข้าใจได้คล่องขึ้นโดยไม่ต้องเปิดซับไตเติ้ล
เขยิบไปวิธีสอง: ฝึกพูดกับกระจกบ่อยๆ
แล้วก็ย้ายไปยืนหน้ากระจกในห้องน้ำตอนตีห้า ก่อนไปทำงานทุกวัน ผมตั้งสมมติตัวเองเป็นคนต้องนำเสนองานต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน โดยตะโกนออกเสียงชัดๆ ทำท่าทางตามที่ฟังมา แรกๆ เสียงตัวเองฟังดูประหลาดบ้าง เสียงแตกบ้าง พอลองทบทวนดู พบว่าทำให้ผมมั่นใจเวลาต้องพูดจริงไม่ว่าสถานการณ์ไหน
กระโดดมาที่วิธีสาม: เรียนผ่านแอปฟรีง่ายๆ
อีกไม่นาน ผมโหลดแอปเรียนภาษาฟรีมาลองใช้งานในมือถือ โดยเลือกแอปที่เน้นการพูดโต้ตอบ เช่น มีฟังก์ชั่นให้อัดเสียงตัวเองแล้วแอปตรวจเสียง ผมคลิกไล่ตามบทเรียนทุกวันตอนพักเที่ยง มีบางทีแอปมันด่าเสียงผมว่าพูดเพี้ยน ผมก็หัวเราะแล้วแก้ไขใหม่ ทำซ้ำไปซ้ำมาแค่เดือนเดียว ผมก็จับสำเนียงได้แม่นขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งครู
จบที่วิธีสุดท้าย: คุยกับคนไทยให้มันส์
วิธีนี้ผมเริ่มช้าเพราะอายคนอื่น แต่สุดท้ายก็ดันตัวเองโดยชวนเพื่อนสนิทมาพูดอังกฤษกันทุกสุดสัปดาห์ เรานัดมานั่งที่ร้านกาแฟแถวบ้าน โดยห้ามใช้ภาษาไทยเลย แรกๆ ทั้งคู่พูดติดๆ ขัดๆ บ้าง อายบ้าง ตอนนี้กลายเป็นฮาได้ พอคุยกันบ่อยๆ ผมได้ฝึกฟังแล้วตอบทันใจไม่ต้องคิดนาน
แล้วผลลัพธ์มันปังมาก จากคนที่พูดประโยคง่ายๆ ไม่ได้ ตอนนี้กลายเป็นชิลๆ พูดต่อเนื่องตอนทำงานเจอคนต่างชาติได้แบบลื่นไหล ใครถามก็บอกว่าวิธีฟรีๆ 4 ข้อนี้ใช้ได้จริงโดยไม่ต้องลงทุนเลย แค่ไม่ขี้เกียจและเริ่มทำเล็กๆ น้อยๆ ก้าวทีละก้าว สุดท้ายคุณก็เก่งเอง